📚 Douluo Dalu 5.5 : Douluo World (Side Story)
บทที่ 11 ภารกิจทีมครั้งแรก
บทที่ 11 ภารกิจทีมครั้งแรก
เสียงปรบมือดังขึ้นเป็นของหลานอิ๋นไห่ สีหน้าของเธอดูเคร่งขรึมเล็กน้อย กล่าวว่า: “ไม่รู้ว่าโลกโต้วหลัวเกิดปัญหาอะไรขึ้นหรือเปล่า เมื่อครู่พวกเธอคงจะเห็นแล้วว่า ที่นี่ปรากฏแสงสีทองเข้มขึ้นมา ก่อนหน้านี้ที่ไม่ได้อธิบายเรื่องพวกนี้ให้พวกเธอฟัง ก็เพื่อจะให้พวกเธอไปสำรวจค้นหากันเอง แต่ในเมื่อมันปรากฏขึ้นมาแล้ว ฉันก็จะบอกพวกเธอไว้ล่วงหน้าเลยแล้วกัน”
“ในโลกโต้วหลัว ไอเทมที่มีคุณสมบัติแตกต่างกัน จะมีสีที่แตกต่างกันไป แบ่งเป็นสีขาว คุณภาพธรรมดา สีเหลือง คุณภาพดี สีม่วง คุณภาพเยี่ยม สีดำ คุณภาพหนึ่งเดียว และสีแดง คุณภาพสุดยอด ทั้งหมดห้าระดับ อันนี้จะสอดคล้องกับสีของวงแหวนวิญญาณของพวกเธอ จำง่ายมาก นอกจากไอเทมสีมาตรฐานทั้งห้าชนิดนี้แล้ว ยังมีสีเขียวที่เป็นตัวแทนของไอเทมเซ็ต สีเงิน ระดับตำนาน และสีทอง ระดับเทพ”
“อาจารย์ครับ แล้วสีทองเข้มเมื่อครู่นี้คือระดับอะไรเหรอครับ? ไม่เหมือนกับพวกนี้เลยนี่ครับ!” ลู่อี้ซินถามอย่างสงสัย
หลานอิ๋นไห่กล่าวเสียงเข้ม: “สีทองเข้มเป็นตัวแทนของระดับตำนาน โดยทั่วไปแล้ว จะปรากฏขึ้นบนไอเทมที่ไม่ใช่ประเภทโจมตีหรือป้องกันเท่านั้น ใกล้เคียงกับอุปกรณ์สีเงินระดับตำนาน หรืออาจจะหายากกว่าอุปกรณ์สีเงินด้วยซ้ำ ฉันสงสัยว่า ไอเทมสีทองเข้มที่ปรากฏขึ้นเมื่อครู่ น่าจะเป็นประเภทเคล็ดวิชา ไม่คาดคิดว่าจะปรากฏขึ้นมาในตอนนี้”
ฮั่วจ่านจี๋ตั้งใจฟังอย่างเงียบๆ ที่แท้ สีทองเข้มเป็นตัวแทนของระดับตำนาน เคล็ดวิชาระดับ A ก็คือสีทองเข้ม ในอนาคตไม่ว่าจะพูดอย่างไรเขาก็ต้องพยายามหาทางเข้าไปในโลกแห่งเทพคลั่งให้ได้ เพื่อที่จะได้รับเคล็ดวิชาในส่วนที่เหลือมาให้ได้
ตามคำแนะนำของโลกแห่งเทพคลั่ง เหนือกว่าเทวทูตตกสวรรค์สองปีก น่าจะยังมีสี่ปีกอยู่ จะมีระดับที่สูงกว่านี้อีกหรือไม่ก็ไม่รู้ การปลุกเทวทูตตกสวรรค์สองปีก ก็ทำให้ความแข็งแกร่งโดยรวมของตนเองเพิ่มขึ้นมากขนาดนี้แล้ว นี่ถ้าเป็นระดับที่สูงกว่านี้ล่ะ?
“พวกเธอจำสิ่งที่ฉันเล่าพวกนี้ไว้ก็พอ ต่อไป พวกเธอจะเข้าสู่ภารกิจทีมครั้งแรก นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเธอจะทำภารกิจร่วมกัน พวกเธอจำไว้ว่า ภารกิจครั้งนี้ไม่ต้องมุ่งหวังคะแนนประเมินที่สูง สำหรับพวกเธอแล้ว การปรับตัวเข้าหากัน การทำความคุ้นเคยซึ่งกันและกันคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ฮั่วจ่านจี๋ ในฐานะหัวหน้าห้อง เธอต้องจำข้อนี้ไว้ให้ดี เข้าใจไหม?”
“ครับ อาจารย์” ฮั่วจ่านจี๋รับคำอย่างนอบน้อม
หลานอิ๋นไห่พยักหน้า กล่าวว่า: “ไปกันเถอะ ไปรับภารกิจกัน ภารกิจเริ่มต้นจะไม่ยากเป็นพิเศษ ขอเพียงพวกเธอระมัดระวังตัวหน่อย ก็ไม่น่าจะมีปัญหา”
เมื่อมาถึงจุดรับภารกิจทีม พวกเขาทำการลงทะเบียนทีมชั่วคราวก่อนเป็นอันดับแรก หลานอิ๋นไห่ใช้สองคำแรกของชื่อตนเองตั้งชื่อทีมให้พวกเขา หน่วยหลานอิ๋นได้ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ
“ถ้าพวกเธอพร้อมกันแล้ว ตอนนี้ก็จะเริ่มปฏิบัติภารกิจแล้วนะ พวกเธอไม่ต้องเป็นห่วงที่บ้าน ทางสถาบันจะแจ้งผู้ปกครองของพวกเธอเองว่าพวกเธอจะพักที่โรงเรียนเพื่อบำเพ็ญเพียรและเรียนหนังสือ”
“พร้อมแล้วครับ/ค่ะ!” ทุกคนกล่าวขึ้นพร้อมเพรียงกัน
การเข้าสู่โลกโต้วหลัวมีจุดส่งย้ายโดยเฉพาะ อยู่ภายในศูนย์กลางภารกิจ ฮั่วจ่านจี๋และสหายมาถึงห้องที่ส่องประกายแสงสีเงินระลอกหนึ่ง “หน่วยหลานอิ๋น เตรียมส่งย้าย” “กำลังสุ่มโลก...” “กำลังสุ่มภารกิจทีม...”
ในตอนนี้ อารมณ์ของทุกคนแตกต่างกันไป แต่มีอยู่จุดหนึ่งที่เหมือนกัน นั่นก็คือความตื่นเต้น พวกเขาทุกคนล้วนได้รับผลประโยชน์บางอย่างจากภารกิจครั้งแรก สำหรับภารกิจทีมครั้งนี้ ย่อมเต็มไปด้วยความคาดหวังโดยธรรมชาติ
ทุกสิ่งรอบตัวเริ่มแปลกประหลาดพิสดาร สีเงินขาวเบื้องหน้ากลายเป็นสีสันหลากหลาย แสงหลากสีนับไม่ถ้วนพาดผ่านไปข้างกาย นำมาซึ่งความรู้สึกที่น่าหลงใหลและน่าอัศจรรย์
เมื่อทุกสิ่งกลับมาแจ่มชัดอีกครั้ง สิ่งแรกที่เข้ามาในจมูกคือกลิ่นหอมจางๆ ของพืชพรรณ ฮั่วจ่านจี๋ก็พลันตื่นขึ้นมาทันที
ด้วยประสบการณ์จากครั้งที่แล้ว ไม่รอให้เห็นทุกสิ่งเบื้องหน้าอย่างสมบูรณ์ เขาก็กระตุ้นวิญญาณยุทธ์เนตรวิญญาณ เปิดการตรวจจับพลังจิตในทันที
โลกทั้งใบราวกับสว่างวาบขึ้นในหัวของเขา ทุกสิ่งรอบตัวก็พลอยชัดเจนขึ้น นี่คือป่าแห่งหนึ่ง กว้างใหญ่ไพศาลมาก ฮั่วจ่านจี๋พบว่า เมื่อตนเองเปิดการตรวจจับพลังจิต รัศมีห้าร้อยเมตรล้วนอยู่ในการรับรู้ทางจิตของตนเอง แข็งแกร่งกว่าเมื่อก่อนไม่รู้กี่เท่า พลังจิตเพิ่มขึ้นเท่าตัว ผลของการตรวจจับพลังจิตกลับเพิ่มขึ้นมากขนาดนี้ นี่น่าจะเกี่ยวข้องกับการที่พลังจิตของตนเองเกินยี่สิบห้าแต้มด้วยสินะ ไม่เพียงแต่จะสามารถสุ่มรับการเสริมพลังพิเศษได้ ตัวมันเองก็เป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพด้วย
สหายทุกคนอยู่ข้างๆ เขา ภารกิจทีม โดยเฉพาะภารกิจทีมครั้งแรก อย่างน้อยก็ไม่ได้ทำให้พวกเขาแยกจากกัน
“ทุกคนระวังตัวด้วย ซ่อนตัวให้ดี” เสียงของฉีสือดังขึ้น
ในตอนนี้ทุกคนต่างเห็นสถานการณ์ของที่ที่อยู่แล้ว ฮั่วจ่านจี๋กล่าว: “ไม่เป็นไร ในรัศมีห้าร้อยเมตร ไม่มีอันตราย”
ทุกคนต่างหันไปมองเขาตามสัญชาตญาณ เพราะอย่างไรเสีย การประเมินนักเรียนใหม่ของเขาก็ได้ระดับ A ยังคงน่าเชื่อถืออยู่มาก
“รัศมีห้าร้อยเมตร? เจ้าสามารถตรวจจับได้ไกลขนาดนั้นเลยหรือ?” หยวนเอินซิงเถียนกล่าวอย่างประหลาดใจ ฮั่วจ่านจี๋พยักหน้า “วิญญาณยุทธ์ของข้าเป็นสายพลังจิต ถนัดด้านการตรวจจับพลังจิต” ทุกคนล้วนเป็นผู้เป็นที่โปรดปรานของสวรรค์ วิญญาณยุทธ์ของแต่ละคนล้วนแข็งแกร่งอย่างยิ่ง ในบรรดาห้องของพวกเขา อันที่จริงวิญญาณยุทธ์สายโจมตีหนักมีค่อนข้างมากเกินไป เมื่อได้ยินฮั่วจ่านจี๋บอกว่ามีความสามารถในการตรวจจับพลังจิตที่แข็งแกร่งมาก สีหน้าของทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะผ่อนคลายลง ในโลกโต้วหลัว ความสามารถแบบนี้บางครั้งสำคัญกว่าความสามารถในการต่อสู้เสียอีก
หยวนเอินซิงเถียนอดไม่ได้ที่จะกล่าว: “มิน่าล่ะเจ้าถึงได้ระดับ A” พูดพลาง ยังยกนิ้วโป้งให้ฮั่วจ่านจี๋อีกด้วย
ฮั่วจ่านจี๋คิดในใจ ตอนที่ข้าได้ระดับ A ความสามารถในการตรวจจับพลังจิตของข้ายังด้อยกว่าตอนนี้มากนัก ในขณะนั้นเอง เสียงอิเล็กทรอนิกส์ก็ดังขึ้นในหัวของทุกคนพร้อมกัน
“เมื่อโลหิตสุริยันสาดส่อง ปีศาจย่อมถือกำเนิด เมื่อฝนโลหิตโปรยปรายทั่วหล้า มหันตภัยจักบังเกิด มหันตภัยพันปีกำลังจะมาเยือนทวีป ผู้ใดคือจ้าวแห่งแสงที่จะกอบกู้แผ่นดิน?”
“การหลอมรวมแห่งความดีและความชั่ว การเป็นหนึ่งเดียวของแสงสว่างและความมืด ใช้โลหิตหงสาเป็นเครื่องนำทาง ข้ามผ่านอุปสรรคนานัปการ ใช้โลหิตมังกรเทพเป็นเครื่องผนึก ความรักจักนิรันดร์”
“ยินดีต้อนรับสู่โลกแห่งเทพมรณะผู้เมตตา ฉากที่หนึ่ง”
เทพมรณะผู้เมตตา? แค่ฟังก็รู้แล้วว่าไม่ใช่ที่ที่ดีอะไร “ทำไมไม่มีคำแนะนำภารกิจล่ะ?” ไฉเจียเจ๋อขมวดคิ้ว
ลู่อี้ซินกล่าวอย่างครุ่นคิด: “น่าจะต้องไปสัมผัสอะไรบางอย่างถึงจะกระตุ้นภารกิจได้กระมัง? จ่านจี๋ ตอนนี้เราจะทำอย่างไรกันดี?”
ฮั่วจ่านจี๋กล่าว: “อย่างนี้แล้วกัน เรามาทำความชัดเจนเกี่ยวกับบทบาทของทุกคนในทีมก่อน แล้วข้าจะใช้การตรวจจับพลังจิตเปิดทาง พวกเราไปสำรวจกันสักหน่อย”
พูดพลาง เขาก็มองไปยังสหายของเขา
“ใครเป็นวิญญาจารย์สายโจมตีหนัก ขอให้ยกมือขึ้น” แม้ในใจจะมีการตัดสินอยู่แล้ว แต่เขาก็ยังคงถามออกไป
ทุกคนมองหน้ากันไปมา จากนั้นไฉเจียเจ๋อ ฉีสือ หลี่เจียงฉี หยวนเอินซิงเถียน และชิวจื่อเสวียนก็ยกมือขึ้น
มุมปากของฮั่วจ่านจี๋กระตุกเล็กน้อย ทีมที่สมบูรณ์หนึ่งทีม ตามทฤษฎีแล้วไม่จำเป็นต้องมีวิญญาจารย์สายโจมตีหนักมากขนาดนี้
หยวนเอินซิงเถียนกล่าว: “ข้าความเร็วพอใช้ได้ จะเป็นสายโจมตีว่องไวก็ได้”
ฮั่วจ่านจี๋กล่าว: “งั้นพวกเราเอาแบบนี้ไปก่อนแล้วกัน แปดคนจัดกระบวนทัพ พวกเธอห้าคนที่เป็นสายโจมตีหนักอยู่รอบนอก ข้าอยู่ตรงกลางค่อนไปทางด้านหน้า ลู่อี้ซินกับจางเหิงรุ่ยอยู่ข้างหลังข้า หากเจออันตราย สายโจมตีหนักป้องกันด้านนอก ลู่อี้ซินกับจางเหิงรุ่ยรับผิดชอบการควบคุม รอให้คุ้นเคยกันมากกว่านี้ค่อยพิจารณาเปลี่ยนกระบวนทัพอีกที ทุกคนคิดว่าอย่างไร?”
ไฉเจียเจ๋อกล่าว: “ข้าไม่มีความเห็น ข้าจะเปิดทางอยู่ข้างหน้าสุดเอง ถึงข้าจะเป็นสายโจมตีหนัก แต่ก็สามารถดูแลเรื่องการป้องกันได้”
“ได้” ฮั่วจ่านจี๋พยักหน้า
หยวนเอินซิงเถียนกล่าว: “งั้นข้าระวังหลังเองแล้วกัน ข้ากับหลี่เจียงฉีอยู่ข้างหลังนะ” “ได้”
กระบวนทัพจึงถูกกำหนดลงเช่นนี้ ฉีสือกับชิวจื่อเสวียนอยู่ทางด้านซ้ายและขวาตามลำดับ ชิวจื่อเสวียนอยู่ทางซ้าย ฉีสืออยู่ทางขวา ฮั่วจ่านจี๋สามคนอยู่ตรงกลาง
ในดวงตาของฮั่วจ่านจี๋ปรากฏประกายแสงสีขาวจางๆ ขึ้น ทุกคนสามารถรู้สึกได้ว่าอากาศรอบศีรษะของเขาบิดเบี้ยวเล็กน้อย
พลังจิตช่างแข็งแกร่ง
เมื่อฮั่วจ่านจี๋รวบรวมการตรวจจับพลังจิตไปยังทิศทางเดียว จะสามารถรับรู้ได้ถึงความเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยที่อยู่ไกลออกไปหนึ่งพันเมตร เขายืนอยู่ที่เดิมหมุนรอบหนึ่งครั้ง ประเมินทิศทาง แล้วกล่าวว่า: “ตอนนี้รอบๆ ยังไม่มีอันตราย ข้าเสนอให้พวกเรามุ่งหน้าไปทางทิศของดวงอาทิตย์ก่อน อย่างแรกคือสะดวกในการกำหนดทิศทาง อย่างที่สองคือจะได้รู้เวลาของโลกนี้ด้วย”
ทุกคนไม่มีใครคัดค้าน ฮั่วจ่านจี๋ปรับการตรวจจับพลังจิตเป็นโหมดปกติ รับรู้การเปลี่ยนแปลงรอบๆ ทุกคนก็เริ่มเดินไปยังแดนไกล
เมื่อกำหนดทิศทางหนึ่งแล้วเดินทางไปประมาณสองชั่วโมง พวกเขาก็มาถึงชายป่า ทุกคนไม่ได้พกน้ำดื่มและอาหารมาด้วย ก่อนหน้านี้ในป่าหาผลไม้มาได้บ้าง พอประทังความหิวไปได้ ตอนนี้ทุกคนต่างก็เหนื่อยล้าเล็กน้อย อุณหภูมิของโลกนี้ค่อนข้างต่ำ ผลไม้ที่เติบโตในป่ามีน้อยมาก ต้นไม้ส่วนใหญ่เป็นไม้สน ดังนั้นพวกเขาจึงหาได้เพียงอาหารจำพวกลูกสน
เมื่อออกจากป่า อุณหภูมิดูเหมือนจะยิ่งต่ำลงไปอีก เมื่อมองไปยังแดนไกล ดวงตาของฮั่วจ่านจี๋ก็สว่างวาบ “ตรงนั้นมีเมืองอยู่”
ทุกคนมองไปยังทิศที่นิ้วของเขาชี้ไป เห็นเพียงทุ่งกว้าง ทิวทัศน์ไกลออกไปไม่ชัดเจน หมอกเย็นยะเยือกเคลื่อนไหว บดบังทัศนวิสัย
หลี่เจียงฉียิ้มแล้วกล่าว: “หัวหน้าห้อง สายตาของท่านช่างดีจริงๆ!” ในขณะนั้นเอง เสียงอิเล็กทรอนิกส์ก็พลันดังขึ้นในหัวของพวกเขา “เทพมรณะผู้เมตตา ฉากที่หนึ่ง ภารกิจที่หนึ่ง กวาดล้าง”
“กรุณาเดินทางไปถึงเมืองหนี่นั่วภายในหนึ่งชั่วโมง ทำลายองค์กรโจรที่มีลุงหลีเป็นหัวหน้า ระยะเวลาภารกิจแปดชั่วโมง รางวัลภารกิจ คะแนนที่ทีมสามารถจัดสรรได้หนึ่งพัน หากภารกิจล้มเหลว จะถูกหักค่าสถานะพื้นฐานที่สอดคล้องกัน และถูกส่งกลับ หากภารกิจสำเร็จ ภารกิจของโลกนี้จะดำเนินต่อไป”
“บนทวีปเทียนหยวนมีห้าประเทศ คือจักรวรรดิเทียนจินทางตอนเหนือ จักรวรรดิฮวาเซิ่งทางตอนใต้ จักรวรรดิอาทิตย์อัสดงทางตะวันตก และสหพันธ์สั่วอวี้ทางตะวันออก และยังมีราชสำนักศักดิ์สิทธิ์ ราชสำนักศักดิ์สิทธิ์ตั้งอยู่ใจกลางของสี่มหาอำนาจ มีพรมแดนติดกับทั้งสี่ประเทศ มีพื้นที่ไม่ใหญ่นัก เป็นรูปหกเหลี่ยม แต่กลับเป็นประเทศที่มีชื่อเสียงที่สุดบนทวีปเทียนหยวน สี่อาณาจักรใหญ่นอกจากจักรวรรดิอาทิตย์อัสดงกับจักรวรรดิฮวาเซิ่งที่มีความสัมพันธ์ไม่ดีต่อกันแล้ว ประเทศอื่นๆ ก็อยู่ร่วมกันอย่างสันติ ในแต่ละปี สี่ประเทศจะต้องส่งมอบ ‘ค่าคุ้มครอง’ จำนวนหนึ่งให้แก่ราชสำนักศักดิ์สิทธิ์ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายของราชสำนักศักดิ์สิทธิ์”
“ประเทศที่มีระบบสหพันธ์เพียงแห่งเดียวบนทวีปคือสหพันธ์สั่วอวี้ค่อนข้างซับซ้อน มีหลากหลายเผ่าพันธุ์อาศัยอยู่ หลายเผ่าพันธุ์ต่างถิ่นก็อาศัยอยู่ในสหพันธ์เช่นกัน หากว่ากันด้วยความแข็งแกร่งโดยรวม สหพันธ์สั่วอวี้ที่ประกอบด้วยหกเผ่าพันธุ์จะแข็งแกร่งที่สุด ส่วนอีกสามประเทศที่เหลือก็มีกำลังรบที่ใกล้เคียงกัน”
“บนทวีปนอกจากจะมีมนุษย์อาศัยอยู่เป็นหลักแล้ว ยังมีเผ่าพันธุ์ที่มีจำนวนน้อยอยู่บ้าง เช่น เผ่าเอลฟ์ผู้เมตตา เผ่าคนแคระที่อารมณ์ฉุนเฉียว เผ่ามนุษย์ปักษาที่ร้องรำทำเพลงเก่ง และเผ่าครึ่งอสูรที่มีจำนวนน้อยและอาศัยอยู่เพียงในป่าลึก และยังมีเผ่ามารทมิฬที่ลึกลับที่สุดและเผ่ามังกรในตำนาน เผ่าพันธุ์ที่มีจำนวนน้อยเมื่อเทียบกับมนุษย์เหล่านี้ กระจัดกระจายอยู่ตามประเทศต่างๆ หลายร้อยหลายพันปีมานี้ ก็อยู่ร่วมกับมนุษย์อย่างสันติมาโดยตลอด เนื่องจากมีวิถีชีวิตที่แตกต่างกัน เผ่าพันธุ์ต่างถิ่นโดยทั่วไปจะอาศัยอยู่ในหุบเขาหรือป่าที่ห่างไกลผู้คน ไม่ค่อยได้ติดต่อกับมนุษย์เท่าไหร่นัก”
“บนทวีปมีสกุลเงินที่ใช้ร่วมกัน นั่นก็คือเหรียญที่ราชสำนักศักดิ์สิทธิ์กำหนดขึ้นและแกะสลักด้วยตราสัญลักษณ์ของราชสำนักศักดิ์สิทธิ์ เหรียญใช้ระบบแลกเปลี่ยนแบบฐานสิบ หนึ่งเหรียญเพชรเท่ากับสิบเหรียญอเมทิสต์เท่ากับหนึ่งร้อยเหรียญทองเท่ากับหนึ่งพันเหรียญเงินเท่ากับหนึ่งหมื่นเหรียญทองแดง รายได้ต่อปีของครอบครัวทั่วไปโดยปกติจะอยู่ที่ประมาณห้าสิบเหรียญทอง และในการดำรงชีวิตของครอบครัวหนึ่งปี จะต้องใช้ประมาณสามสิบเหรียญทอง”
“สี่ประเทศมีภาษาที่ใช้ร่วมกันของตนเอง และในเมืองใหญ่ๆ และชนชั้นสูงของแต่ละประเทศ โดยทั่วไปจะใช้ภาษาราชสำนักศักดิ์สิทธิ์ร่วมกัน”
“เมืองหนี่นั่ว ตั้งอยู่ที่เมืองเล็กๆ ทางตอนเหนือสุดของมณฑลปี่เอ๋อร์นั่วในจักรวรรดิเทียนจิน และยังอยู่ทางตอนเหนือสุดของทวีปเทียนหยวน กลางวันสั้นกลางคืนยาว หนาวเย็นตลอดทั้งปี ผู้คนที่นี่ส่วนใหญ่หาเลี้ยงชีพด้วยการจับปลาในทะเลน้ำแข็งที่อยู่ข้างเมืองเล็กๆ ทะเลน้ำแข็งมีภูเขาน้ำแข็งลอยเคลื่อนที่อยู่ตลอดทั้งปี ขนของแมวน้ำ สิงโตทะเลที่อุดมสมบูรณ์ในทะเล เป็นที่ชื่นชอบของเหล่าขุนนางอย่างมาก”
ฮั่วจ่านจี๋พลางฟังเสียงอิเล็กทรอนิกส์แนะนำโลกนี้ พลางจดจำทุกรายละเอียดอย่างตั้งใจ ด้วยพลังจิตที่แข็งแกร่ง เนื้อหาเหล่านี้ราวกับถูกสลักไว้ในหัวของเขา
“ภารกิจมาแล้ว พวกเราออกเดินทาง!” ฮั่วจ่านจี๋โบกมือ ทุกคนก็ลุกขึ้นทันที มุ่งหน้าไปยังทิศทางของเมืองหนี่นั่วอย่างรวดเร็ว
ในทุ่งกว้างหากมีอันตรายใดๆ ย่อมสามารถพบได้ในทันที บวกกับการตรวจจับพลังจิตของฮั่วจ่านจี๋ ทุกคนจึงปล่อยความเร็วเต็มที่ รักษากระบวนทัพไว้ มุ่งหน้าไปยังเมืองหนี่นั่วอย่างรวดเร็ว ในเมือง ย่อมมีที่กินดื่มและพักผ่อน
เมื่อทุกคนปล่อยความเร็วเต็มที่ ความแตกต่างของความแข็งแกร่งก็ปรากฏขึ้น ฮั่วจ่านจี๋สังเกตเห็นว่า มีเพียงลู่อี้ซินที่อยู่ข้างหลังเขาที่ตามทุกคนมาอย่างค่อนข้างลำบาก ความเร็วของคนอื่นๆ ล้วนรักษาระดับไว้อย่างคงที่มาก
ไม่ว่าจะเป็นวิญญาจารย์สายโจมตีหนักห้าคนที่อยู่รอบนอก หรือจางเหิงรุ่ยที่ควบคุมธาตุลม เห็นได้ชัดว่ายังเหลือแรงอยู่
เขาก็สบายมากเช่นกัน เขามั่นใจได้ว่า หากไม่ใช่เพราะเขาฝึกฝนเคล็ดอสูรสวรรค์ ทำให้ค่าสถานะพื้นฐานเพิ่มขึ้นอย่างมาก แค่การวิ่งตรงหน้านี้ตนเองก็คงตามไม่ทัน อาจจะยังสู้ลู่อี้ซินไม่ได้ด้วยซ้ำ โลกของอัจฉริยะ ช่างกดดันจริงๆ!
ในสายตาของคนอื่นๆ ฮั่วจ่านจี๋ที่คอยบัญชาการอยู่ตรงกลาง ราวกับเดินเล่นในสวนสบายๆ ในดวงตายังคงส่องประกายแสงสีขาวอยู่เสมอ ใช้การตรวจจับพลังจิตมาเป็นเวลานานแล้ว ก็ไม่เคยได้ยินเขาบอกว่าต้องพัก พวกเขายิ่งให้ความสำคัญกับหัวหน้าห้องที่เคยได้รับระดับ A คนนี้มากขึ้น
ป.ล. :
นิยายภาคแยกของผู้แต่งถังเจียซานเส่าและเป็นเรื่องสุดท้ายของทวีปโต้วหลัว จะเชื่อมโยงไปยังจักรวาล ShenLan Qiyu
0 comments:
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น