🔥 Note: !!!!! อ่านเลย!

Douluo Dalu 5.5 : บทที่ 28 สองปี

ภาพปก

📚 Douluo Dalu 5.5 : Douluo World (Side Story)

บทที่ 28 สองปี

บทที่ 28 สองปี

เพียงแค่หนึ่งชั่วโมง ฮั่วจ่านจี๋ก็ล้มลงไปแล้วยี่สิบสามครั้ง นี่คือเพราะในจำนวนนั้นมีสามครั้งที่สลบไป และต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวอยู่บ้าง

ต้านไม่ได้ เขาต้านไม่ได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว

การปะทะซึ่งๆ หน้า พลังที่รุนแรงอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ของราชสีห์ทองสามตานั้นราวกับทำลายไม้ผุ การหลบหลีก? จะหลบพ้นหรือ? ทักษะ? ทักษะใดๆ ต่อหน้าอีกฝ่ายดูเหมือนจะไม่มีประโยชน์อะไรเลย

หนึ่งชั่วโมงนี้ ฮั่วจ่านจี๋ทั้งคนผ่านไปในสภาพที่มึนงงสับสน

เมื่อเขาได้สติกลับคืนมาอีกครั้ง ข้างกายก็มีผลไม้ที่ไม่รู้จักชื่อวางอยู่บ้าง และยังมีของที่คล้ายกับสมุนไพรหวงจิงอยู่ด้วย ล้วนเป็นสิ่งที่สามารถล้างแล้วกินได้โดยตรง

หลังจากกินอิ่มแล้ว เขาถึงจะพอได้สติกลับคืนมาบ้าง แม้ร่างกายจะได้รับการรักษาแล้ว แต่ก็ยังคงไม่มีที่ไหนไม่เจ็บ ผิวหนังยังคงกระตุกอยู่

นี่คือผู้แข็งแกร่งที่แท้จริงหรือ? เมื่อเทียบกับคนอื่นแล้ว ความสามารถในการต่อสู้จริงของตนเองแทบไม่อาจเทียบได้แม้กระทั่งฝุ่นผง!

ฮั่วจ่านจี๋หยิบหอกไม้บนพื้นขึ้นมา พยุงตัวเองให้ลุกขึ้นยืน ในหัวนึกทบทวนถึงเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในการต่อสู้ก่อนหน้านี้ เริ่มร่ายรำหอกไม้

แปดชั่วโมงต่อมา ราชสีห์ทองสามตาก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขาอีกครั้ง

ยังคงเป็นการโจมตีโดยตรง ยังคงเป็นการซัดเขาล้มลง ทุกครั้งที่ซัดเขาล้มลง ราชสีห์ทองสามตาก็จะบอกเขาอย่างเย็นชาว่าเขาผิดพลาดตรงไหน

ฮั่วจ่านจี๋พยายามปรับปรุงตนเองอย่างสุดความสามารถ นำความสามารถทั้งหมดที่ตนเองสามารถใช้ได้ออกมาใช้ แต่ว่า ไม่มีประโยชน์...

ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพร่างเทวทูตตกสวรรค์ หรือหลังจากที่ถูกซัดจนร่างเทวทูตตกสวรรค์คลายออกแล้ว เขาก็ไม่สามารถต้านทานการโจมตีที่น่าสะพรึงกลัวของอีกฝ่ายได้อย่างสิ้นเชิง หอกไม้เล่มเดียวกัน อยู่ในมือของอีกฝ่าย กลับพลิ้วไหวดุจสายลมไร้ร่องรอยให้ติดตาม ไม่ว่าจะเป็นพละกำลัง ความเร็ว พลังระเบิด หรือทักษะ อีกฝ่ายถึงกับยังไม่ได้ใช้ทักษะวิญญาณเลย ก็ซัดฮั่วจ่านจี๋จนไม่มีแรงจะต้านทาน

โชคดีที่ ทุกครั้งมีเพียงหนึ่งชั่วโมง หลังจากที่ทุบตีเขาอย่างหนักหนึ่งชั่วโมงแล้ว ราชสีห์ทองสามตาก็จะจากไป ให้เวลาเขาปรับสภาพแปดชั่วโมง ปรับสภาพร่างกาย และก็พยายามเรียนรู้ด้วย

วันเวลาเช่นนี้ ใช้คำว่าเจ็บปวดจนไม่อยากจะมีชีวิตอยู่มาบรรยายก็ยังดูน้อยไป วันหนึ่งผ่านไป แม้ภายนอกฮั่วจ่านจี๋จะดูไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่เขากลับมีความรู้สึกสะบักสะบอมไปทั้งตัว

ในตอนนี้ ในหัวของเขาอดไม่ได้ที่จะนึกถึงคำพูดที่ท่านประมุขหอเทพสมุทรเคยพูดกับเขาไว้ ความแข็งแกร่งที่แท้จริงไม่ใช่การพึ่งพาโชคชะตา แต่คือการพึ่งพาจิตใจที่แน่วแน่ของตนเอง

ทนไว้ ต้องทนไว้ให้ได้

เมื่อเวลามาถึงสามวัน

ฮั่วจ่านจี๋นอนอยู่บนพื้น ไม่อยากจะขยับแม้แต่น้อย เขารู้สึกเพียงว่า หากไม่ใช่เพราะราชสีห์ทองสามตาคอยรักษาให้เขาอยู่ตลอด บางที ตนเองคงจะตายไปหลายครั้งแล้วกระมัง ในใจเขาถึงกับเคยมีความคิดว่า ต่อให้ตายสักครั้ง ให้ค่าสถานะลดลงครึ่งหนึ่งแล้วกลับไปก็ยังดี! นี่คือคู่ต่อสู้ที่เป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะได้เลย เป็นไปไม่ได้เลยที่จะผ่านบททดสอบ

ตอนที่เพิ่งจะได้รับค่าสถานะพื้นฐานสามแต้มนั้น เขายังแอบดีใจอยู่บ้าง ภารกิจย่อยภารกิจเดียวก็ให้รางวัลมากขนาดนี้ ไม่เลวเลยจริงๆ แต่ตอนนี้เขาถึงได้รู้ว่า ค่าสถานะพื้นฐานสามแต้มนี้ได้มาไม่ง่ายเพียงใด

“เจ้ากลับไปไม่ได้ ไม่ผ่านภารกิจหลัก เพราะความผิดพลาดนั้น ต่อให้ตาย เจ้าก็กลับไปไม่ได้ ที่นี่ ตายแล้วเจ้าก็คือตายจริงๆ” ราชสีห์ทองสามตาดูเหมือนจะมองทะลุใจของเขา กล่าวบอกความจริงแก่เขาเรียบๆ

ความทรหดอดทนมาจากไหน?

หลังจากที่บำเพ็ญเพียรในหุบเขาที่ทิวทัศน์งดงามแต่สำหรับฮั่วจ่านจี๋แล้วราวกับนรกแห่งนี้เป็นเวลาหนึ่งเดือน ฮั่วจ่านจี๋ก็เข้าใจแล้ว

มีเพียงการขัดเกลาอย่างต่อเนื่องเท่านั้น จึงจะสามารถหล่อหลอมเจตจำนงที่ทรหดอดทนอย่างแท้จริงได้

ข้อดีเพียงอย่างเดียวที่เขาไม่แน่ใจคือ นี่ตกลงแล้วเป็นเจตจำนงที่ทรหดอดทนของตนเอง หรือว่าเป็นเพราะถูกซ้อมจนชินแล้ว

การถูกซ้อมหนึ่งเดือนนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะไร้ประโยชน์ ร่างกายบวกสอง พละกำลังบวกหนึ่ง พลังจิตบวกหนึ่ง ความว่องไวบวกหนึ่ง เร็วกว่าตอนที่เขาบำเพ็ญเพียรปกติไม่น้อยเลยทีเดียวอย่างแน่นอน

ส่วนการต่อสู้จริง การพัฒนากลับไม่ได้โดดเด่นขนาดนั้น หนึ่งเดือนก่อน เขาต้านไม่ได้แม้แต่ครั้งเดียว วันนี้หนึ่งเดือนให้หลัง กลายเป็นนานๆ ครั้งจะสามารถต้านได้สักครั้งหนึ่ง อืม เพียงเท่านั้น

“อาจารย์จิน ท่านว่าเมื่อไหร่ข้าถึงจะทำบททดสอบของท่านสำเร็จหรือครับ?” ฮั่วจ่านจี๋ก็เคยถามคำถามเช่นนี้

คำตอบของราชสีห์ทองสามตาคือ “ไม่รู้”

พริบตาเดียว สามเดือนก็ผ่านไป วันเวลาในหุบเขามิอาจนับ สำหรับฮั่วจ่านจี๋แล้ว กลับราวกับผ่านไปสามปี

เขาก็ยังมีความก้าวหน้าอยู่ อย่างน้อยก็สามารถทนได้เกินสามกระบวนท่าแล้ว แต่มักจะต้องผ่านวิธีการสู้ตาย จึงจะสามารถทนได้อย่าฉิวเฉียด

ราชสีห์ทองสามตาแข็งแกร่งเกินไปจริงๆ ค่าสถานะพื้นฐานของฮั่วจ่านจี๋เพิ่มขึ้น ค่าสถานะพื้นฐานของเธอก็จะปรับเพิ่มขึ้นตามไปเล็กน้อย หอกไม้ในมือ ก็จากที่ตอนแรกเป็นการบดขยี้ด้วยพละกำลังล้วนๆ กลายเป็นลึกลับดุจภูตผี ซัดฮั่วจ่านจี๋จนเจ็บปวดจนไม่อยากจะมีชีวิตอยู่

แต่ว่า อย่างไรก็ยังมีความก้าวหน้าอยู่ มีความก้าวหน้า ก็หมายความว่ามีความหวัง

...

หนึ่งปีผ่านไป

ในที่สุดฮั่วจ่านจี๋ก็สามารถทนได้ถึงสิบกว่ากระบวนท่าแล้ว อย่างน้อยในช่วงเวลาสั้นๆ ก็สามารถสู้กับราชสีห์ทองสามตาได้อย่างสูสีอยู่บ้าง แต่ว่า ก็ยังยากที่จะต่อกรได้ ยังคงถูกกดดันซัดอยู่เรื่อยๆ

แต่ราชสีห์ทองสามตาหากต้องการจะชนะเขา ก็ต้องใช้ทักษะบางอย่างแล้ว ทักษะเหล่านี้สำหรับฮั่วจ่านจี๋แล้ว หลายอย่างล้วนเป็นสิ่งที่ได้ยินครั้งแรก แม้ทุกวันจะยังคงล้มเหลว ยังคงถูกซ้อม แต่ความสามารถในการทนทานต่อการถูกซ้อมของฮั่วจ่านจี๋ก็เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ไม่จำเป็นต้องรับการรักษาอยู่เสมอแล้ว และเขาก็มั่นใจได้อย่างแน่นอนว่า ความสามารถในการต่อสู้จริงของตนเองเมื่อเทียบกับหนึ่งปีก่อน แตกต่างกันราวฟ้ากับดินอย่างแน่นอน

ความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นเพราะเคล็ดอสูรสวรรค์ก่อนหน้านี้ ทักษะที่มีอยู่ รวมถึงทักษะวิญญาณด้วย ตอนนี้เขาได้ประยุกต์ใช้จนเชี่ยวชาญ คล่องแคล่ว หลอมรวมเข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์แล้ว

หนึ่งปีที่ผ่านมานี้ ช่างเต็มเปี่ยมจริงๆ หากไม่ใช่เพราะราชสีห์ทองสามตามีความสามารถในการรักษาที่แข็งแกร่งคอยช่วยเหลือ เกรงว่าห้าปีก็อาจจะยังไม่สามารถบรรลุถึงผลลัพธ์เช่นนี้ได้

ตอนที่เริ่มถูกราชสีห์ทองสามตาซ้อมใหม่ๆ ฮั่วจ่านจี๋เจ็บปวดจนไม่อยากจะมีชีวิตอยู่จริงๆ ถึงกับเคยอยากตาย แต่เมื่อเวลาผ่านไป ถึงช่วงหลายเดือนหลังมานี้ เขากลับเริ่มจะสนุกกับมันแล้ว เขายิ่งสามารถสัมผัสได้ถึงความก้าวหน้าของตนเองได้มากขึ้นเรื่อยๆ สามารถสัมผัสได้ว่าภายใต้การกดดันของอาจารย์ที่แข็งแกร่งเช่นนี้ มีประโยชน์ต่อการเติบโตของตนเองมากเพียงใด

แววตาของเขาแน่วแน่กว่าเมื่อหนึ่งปีก่อนมาก มั่นคงกว่ามาก ในส่วนลึกของจิตใจ ก็มีเจตจำนงที่ไม่ยอมแพ้เพิ่มขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว บททดสอบที่ยากลำบากเช่นนี้ ตนเองก็ยังก้าวผ่านมาทีละก้าว แม้จะยังไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลานานเท่าไหร่จึงจะเดินจนสุดทาง แต่ก็ยังคงก้าวหน้าอยู่เสมอ! เส้นทางที่ยากลำบากถึงเพียงนี้ยังคงก้าวไปข้างหน้า แล้วยังมีอะไรที่จะมาขวางกั้นตนเองได้อีก?

แต่ว่า ช่วงนี้เขาก็เริ่มเข้าสู่ช่วงคอขวด ปัจจุบันขีดจำกัดของเขาคือการทนอยู่ในมือของราชสีห์ทองสามตาได้หนึ่งนาที แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่สามารถทะลวงผ่านขีดจำกัดนี้ไปได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการเอาชนะราชสีห์ทองสามตาแล้ว

เหมือนกับชนเข้ากับกำแพง หากจะพุ่งผ่านไปกลับยากเย็นแสนเข็ญ

“ฮะ ฮะ ฮะ...” ฮั่วจ่านจี๋หอบหายใจอย่างหนัก แต่ก็ยังคงใช้หอกไม้พยุงร่างกายของตนเองไว้ ไม่ได้นั่งลงพัก

ราชสีห์ทองสามตาเคยบอกเขาว่า ไม่ว่าเมื่อไหร่ เจตจำนงจะพังทลายไม่ได้ หากเจตจำนงพังทลาย ก็เท่ากับจบสิ้นแล้ว

ดังนั้น ต่อให้ตอนนี้จะถูกราชสีห์ทองสามตาซ้อมจนบาดเจ็บสาหัส ฮั่วจ่านจี๋ก็จะพยายามสุดชีวิตลุกขึ้นมา พยายามยืนหยัด

“อาจารย์ ทำไมช่วงนี้ข้าถึงไม่มีความก้าวหน้าอะไรเลย? เหมือนว่าไม่ว่าจะทำอย่างไร ก็ไม่สามารถทนได้นานขึ้นเลย” ฮั่วจ่านจี๋ถามพลางยิ้มขื่น

ราชสีห์ทองสามตากล่าวเรียบๆ: “เพราะเจ้าคิดที่จะทน ไม่ใช่ที่จะชนะ ตอนนี้ข้า ระดับการบำเพ็ญเพียรเกินหนึ่งหมื่นห้าพันปี เจ้าเพิ่งจะแค่หนึ่งปีเท่านั้น หากจะชนะข้า ก่อนอื่นเจ้าต้องมีความเชื่อมั่นว่าจะต้องชนะให้ได้ ต้องมีทัศนคติที่พร้อมจะสละชีพ ที่สำคัญกว่านั้นคือการสะสมที่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้น มีเพียงเมื่อเงื่อนไขทั้งสามนี้ครบถ้วน เจ้าถึงจะมีโอกาสเพียงเส้นยาแดงผ่าแปดเท่านั้น”

เพื่อโอกาสเพียงเส้นยาแดงผ่าแปดนี้ ฮั่วจ่านจี๋ก็ถูกทารุณกรรมไปอีกหนึ่งปีเต็ม เข้ามาในหุบเขาแห่งนี้ ก็ผ่านไปแล้วสองปี

“อาจารย์ ข้าควรจะยังอยู่ในวัยเจริญเติบโต แต่สองปีมานี้ ร่างกายของข้าดูเหมือนจะไม่ค่อยเติบโตเลยนะขอรับ!” ฮั่วจ่านจี๋ถามราชสีห์ทองสามตา

ราชสีห์ทองสามตากล่าวเรียบๆ: “มิติของข้านี้ผนึกเวลาไว้ หลังจากที่เจ้าทำภารกิจหลักของโลกนี้สำเร็จและกลับไปแล้ว เวลาจะกลับมาสู่ตัวเจ้าอีกครั้ง ยังคงเป็นอัตราส่วนสามต่อหนึ่ง กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ในโลกแห่งความเป็นจริง อันที่จริงเจ้าก็ผ่านไปแล้วแปดเดือน”

แปดเดือน...

ไม่ได้เจอพ่อแม่มาแปดเดือนแล้ว ภารกิจเดี่ยวของสหาย ก็น่าจะสำเร็จไปนานแล้วกระมัง พวกเขาไม่รู้ว่ากำลังรอตนเองอยู่ หรือว่าไปทำภารกิจทีมแล้ว หรือว่า ในสถานการณ์ที่ไม่มีหัวหน้าทีม ภารกิจทีมก็รับไม่ได้?

เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ ฮั่วจ่านจี๋เงยหน้ามองท้องฟ้า “อาจารย์ วันนี้ ข้าต้องชนะให้ได้!”

หนึ่งเค่อต่อมา

“ตูม——” แสงสีทองเจิดจ้าระเบิดขึ้นในหุบเขา

ร่างหนึ่ง ราวกับกระสอบป่านที่ขาดร่วงกระเด็นออกไป

ประตูแสงบานหนึ่งปรากฏขึ้นบนเส้นทางที่ร่างนั้นต้องผ่าน ร่างกายทะลุผ่านประตูแสง ทุกสิ่งรอบตัวกำลังเกิดการเปลี่ยนแปลง เขากลับมายังป่าใหญ่แห่งนั้นอีกครั้ง

“ปัง——” ร่างกายกระแทกลงบนพื้น

ฮั่วจ่านจี๋หอบหายใจอย่างหนัก ในตอนนี้ บนใบหน้าของเขากลับเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ไม่ได้ลุกขึ้นมาในทันที ที่จมูกได้กลิ่นหอมของพืชพรรณ

ชนะแล้ว ในที่สุดตนเองก็ชนะสักครั้ง

แม้ว่าโอกาสที่ตนเองจะสามารถเอาชนะอาจารย์ได้ยังคงมีเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์เท่านั้น แต่ว่า ในที่สุดตนเองก็ฉวยโอกาสไว้ได้ครั้งหนึ่ง ไม่เสียดายชีวิต ฉวยโอกาสเพียงน้อยนิดนั้นไว้! บีบให้อาจารย์ในที่สุดต้องใช้พลังที่เกินกว่าค่าสถานะของตนเองซัดตนเองกระเด็นออกมา

“ภารกิจย่อย บททดสอบของราชสีห์ทองสามตา สำเร็จ รางวัลพิเศษ หอกไม้ที่ถูกผนึก” เสียงเตือนดังขึ้น

ฮั่วจ่านจี๋พยุงตัวลุกขึ้นมา มองดูหอกไม้ในมือที่อยู่กับตนเองมาเป็นเวลาสองปีเต็มนี้ นอกจากค่าสถานะพื้นฐานสามแต้มที่รู้ล่วงหน้าแล้วว่าจะได้รับ ไม่คาดคิดว่านี่ก็เป็นรางวัลจากการผ่านภารกิจย่อยนี้ด้วย

“อาจารย์! อาจารย์——” เขาตะโกนเสียงดัง

แต่ว่า ไม่มีเสียงตอบกลับ

เมื่อออกจากประตูแสงบานนั้น จากหุบเขาแห่งนั้นไป ดูเหมือนว่าวาสนาของเขากับเธอก็คงจะสิ้นสุดลงแล้ว

ความรู้สึกสูญเสียอย่างรุนแรงเข้ามาในทันที จนสมองของฮั่วจ่านจี๋พลันว่างเปล่า

สองปี สองปีเต็มๆ! พวกเขาอยู่ด้วยกันนานถึงสองปี แม้ทุกวันจะถูกทารุณกรรม ทุกวันจะดิ้นรนในความเจ็บปวด แต่ว่า เขาก็เข้าใจดีว่า ทุกสิ่งที่ราชสีห์ทองสามตาทำล้วนเพื่อฝึกฝนตนเอง คำชี้แนะทุกประโยคของเธอล้วนทำให้ตนเองก้าวหน้า การต่อสู้จริงสองปีไม่หยุดหย่อน การดิ้นรนในความเจ็บปวดนับครั้งไม่ถ้วน กลับทำให้ตนเองก้าวผ่านความเจ็บปวดสู่การเกิดใหม่

อาจจะกล่าวได้ว่า สิ่งที่ราชสีห์ทองสามตามอบให้เขา ยิ่งล้ำค่ากว่าเคล็ดอสูรสวรรค์ในตอนนั้นเสียอีก ไม่ว่าจะในด้านจิตใจหรือความแข็งแกร่ง ล้วนวางรากฐานที่มั่นคงอย่างยิ่งให้แก่เขา

แต่ว่า ตนเองในตอนที่ในที่สุดก็ผ่านบททดสอบของเธอแล้ว กลับไม่ได้กล่าวคำอำลาแม้แต่คำเดียว ก็จากกันไปแล้วจริงๆ ยังจะมีวันได้พบกันอีกไหม?

เขาพยายามสูดหายใจเข้าลึกๆ ฮั่วจ่านจี๋ปักหอกไม้ลงบนพื้นดินข้างๆ แล้วคุกเข่าลงไปยังทิศทางที่ประตูแสงนั้นหายไป โขกศีรษะลงอย่างหนักสามครั้ง

เมื่อลุกขึ้นยืนอีกครั้ง น้ำตาในดวงตาของเขาก็ค่อยๆ เหือดหายไป สองปีนี้ เขาก็ได้เรียนรู้ที่จะเข้มแข็งแล้ว

“เหลือเวลาอีกเจ็ดสิบเอ็ดชั่วโมงก่อนที่การประเมินของสถาบันสื่อไหลเค่อจะเริ่มขึ้น” ในขณะนั้นเอง เสียงเตือนก็ดังขึ้น

เป็นไปตามคาดว่าผนึกเวลาไว้จริงๆ!

ฮั่วจ่านจี๋สูดหายใจเข้าลึกๆ เรียกแผงค่าสถานะของตนเองออกมา

ฮั่วจ่านจี๋ นักเรียนใหม่สถาบันสื่อไหลเค่อ สาขาซิงหลัว อายุสิบสองปี

วิญญาณยุทธ์: เนตรวิญญาณ เทวทูตตกสวรรค์

พละกำลัง: สามสิบหก

ความว่องไว: สามสิบเก้า

ร่างกาย: สี่สิบเอ็ด

พลังจิต: หกสิบสอง

พลังโจมตี: แปดสิบ

พลังป้องกัน: เจ็ดสิบสามบวกสอง

ค่าสถานะพื้นฐานที่รอการจัดสรร: ศูนย์

พื้นที่โลกโต้วหลัว: เคล็ดอสูรสวรรค์ (ขั้นต้น ฝึกฝนแล้ว สามารถใช้ได้จนถึงพลังวิญญาณระดับสี่สิบ)

ทักษะเสริมทางจิตใจ ระเบิดพลังจิต

ทักษะเสริมความว่องไว สลับร่างเปลี่ยนเงา

ทักษะเสริมร่างกาย: กายาแกร่งดุจโค

เคล็ดอสูรสวรรค์ทักษะ: อสูรสวรรค์กลืนกิน, อสูรสวรรค์ชิงวิญญาณ, ร่างแยกอสูรสวรรค์

ค่าสถานะพละกำลังถึงยี่สิบห้าแต้ม สามารถสุ่มรับทักษะเสริมได้

ค่าสถานะพลังจิตถึงห้าสิบแต้ม สามารถสุ่มรับทักษะเสริมได้

เมื่อมองดูค่าสถานะพื้นฐานที่เปลี่ยนแปลงไปราวฟ้ากับดินของตนเอง ฮั่วจ่านจี๋ก็อดไม่ได้ที่จะมีความรู้สึกราวกับผ่านไปชั่วชีวิต

การบำเพ็ญเพียรอย่างหนักสองปี การต่อสู้จริงสองปี ความแข็งแกร่งทั้งหมดของเขามีความก้าวหน้าที่ยาวนาน ในหุบเขาของราชสีห์ทองสามตานั้น พลังปราณฟ้าดินหนาแน่นอย่างยิ่ง นอกจากต่อสู้จริงแล้วก็คือการบำเพ็ญเพียร และในระหว่างนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างของเขาก็พลันยกระดับขึ้นอย่างรวดเร็ว

ความก้าวหน้านี้เป็นของจริง ไม่ใช่สิ่งที่อุปกรณ์หรือเคล็ดวิชาใดๆ มาเพิ่มให้ แต่เป็นสิ่งที่ฮั่วจ่านจี๋ในกระบวนการที่ถูกทารุณกรรมอย่างบ้าคลั่ง ก้าวขึ้นมาด้วยตนเองทีละก้าว พลังวิญญาณของเขา น่าจะอยู่ที่ประมาณสามสิบแปดหรือสามสิบเก้าแล้ว ใกล้จะถึงเกณฑ์ของปรมาจารย์วิญญาณสี่สิบระดับแล้ว

“สุ่มรับทักษะเสริมพละกำลัง” ฮั่วจ่านจี๋ตัดสินใจเลือกในทันที

“กำลังสุ่มทักษะเสริมพละกำลัง...”

“สุ่มเสร็จสิ้น ทักษะเสริมหนึ่ง พละกำลังเพิ่มขึ้นห้าเปอร์เซ็นต์ ทักษะเสริมสอง พลังมหาศาลสร้างปาฏิหาริย์ โดยใช้การลดค่าสถานะร่างกายห้าสิบเปอร์เซ็นต์เป็นเดิมพัน ระเบิดพละกำลังออกมาสองเท่าในทันที ระยะเวลาคูลดาวน์สามชั่วโมง พิเศษ ทักษะเสริมสาม คลั่ง ค่าสถานะทั้งหมดเพิ่มขึ้นสิบเปอร์เซ็นต์ ระยะเวลาหนึ่งนาที ระยะเวลาคูลดาวน์ยี่สิบสี่ชั่วโมง หลังจากใช้แล้วจะเข้าสู่สภาวะอ่อนแอหนึ่งชั่วโมง หายาก”

ได้หนึ่งพิเศษกับหนึ่งหายาก?

หลังจากที่บำเพ็ญเพียรกับราชสีห์ทองสามตามานานขนาดนี้ ทำให้ฮั่วจ่านจี๋เกือบลืมพรสวรรค์แห่งความโชคดีของตนเองไปแล้ว

นี่ก็ไม่ต้องลังเลแล้ว เลือกคลั่งแน่นอน!

“สุ่มรับทักษะเสริมคุณสมบัติพลังจิต”

รูปปกนิยาย

ป.ล. :

นิยายภาคแยกของผู้แต่งถังเจียซานเส่าและเป็นเรื่องสุดท้ายของทวีปโต้วหลัว จะเชื่อมโยงไปยังจักรวาล ShenLan Qiyu

0 comments:

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็น

👨‍🏫 นักแต่งนิยายจีน

Main

ตัวละครแนะนำ

📝 บทความล่าสุด