📚 Douluo Dalu 5.5 : Douluo World (Side Story)
บทที่ 36 เอาชนะเจ็ดประหลาดแห่งสื่อไหลเค่อ
บทที่ 36 เอาชนะเจ็ดประหลาดแห่งสื่อไหลเค่อ
ทักษะวิญญาณที่สี่ของไต้มู่ไป๋ "พยัคฆ์ขาวฝนดาวตก" และทักษะวิญญาณที่สี่ของหม่าหงจวิ้น "เสียงคำรามพญาหงส์ทำลายสวรรค์" ทั้งหมดกระหน่ำเข้าใส่ร่างของหลี่เจียงฉี
ในทันทีนั้น หลี่เจียงฉีพลันถูกซัดจนบาดเจ็บสาหัสปางตาย แต่แล้วม่านแสงป้องกันชั้นหนึ่งก็ปรากฏขึ้นบนร่างของเธอ
ทักษะทีม, พิทักษ์ยามวิกฤต!
วินาทีต่อมา ร่างของหลี่เจียงฉีก็ได้หายไปในอากาศอย่างไร้ร่องรอย, ทักษะทีม, เคลื่อนย้ายมิติ
แม้จะเป็นการเคลื่อนย้ายมิติแบบสุ่ม แต่หลี่เจียงฉีก็ได้ออกจากสนามแข่งขันในทันที หลุดพ้นจากการต่อสู้ และย่อมจะไม่มีอันตรายอย่างแน่นอน สถานที่แห่งนี้คือสำนักวิญญาณยุทธ์! นอกจากคนของสถาบันสื่อไหลเค่อแล้ว เกือบทั้งหมดก็เป็นยอดฝีมือของสำนักวิญญาณยุทธ์
หลี่เจียงฉีใช้การเสียสละตนเองเพื่อปกป้องคนอื่นๆ มิฉะนั้นหากถูกการระเบิดพลังร่วมกันของถังซาน ไต้มู่ไป๋ และหม่าหงจวิ้นเข้าจังๆ พวกเขาทั้งห้าคนย่อมต้องตกอยู่ในอันตราย
ฉากนี้ ก็ทำให้ถังซานและพวกพ้องตะลึงไปเล็กน้อย
และในจังหวะนี้เอง ฉีสือก็ได้หลุดพ้นจากพันธนาการใยแมงมุมแล้ว และถังซานก็ได้เห็นเสียวอู่ถูกฮั่วจ่านจี๋ใช้หอกฟาดเข้าที่คอจนค่อยๆ ล้มลงพอดี
ดวงตาของถังซานแดงก่ำขึ้นมาในทันที ในตอนนี้พวกเขาถึงได้ตระหนักว่า คนที่แข็งแกร่งที่สุดของอีกฝ่ายกลับไม่ใช่ห้าคนที่พุ่งมาข้างหน้านี้ แต่เป็นเด็กหนุ่มผู้มีเพียงสามวงแหวนคนนั้น เขาแทบจะใช้พลังของตนเองเพียงผู้เดียว ในเวลาอันสั้นเช่นนี้ก็เอาชนะจูจู๋ชิงกับเสียวอู่ได้แล้ว เขาที่ด้านหลังสยายปีกสีดำคู่หนึ่งออกมา กลิ่นอายบนร่างยิ่งพุ่งทะยานขึ้นเป็นเส้นตรง
ดังนั้น ในตอนนี้พวกเขาก็ไม่สนใจฉีสืออีกต่อไป ถังซานกับไต้มู่ไป๋แทบจะพร้อมกันพุ่งตรงไปยังทิศทางของฮั่วจ่านจี๋
จากนั้นพวกเขาก็เห็นว่า ฮั่วจ่านจี๋ยิ้มเล็กน้อย ร่างกายถอยหลังอย่างรวดเร็ว สองมือสะบัด จูจู๋ชิงกับเสียวอู่ก็ถูกโยนออกไปทางนอกเวทีการประลองโดยตรง ในขณะเดียวกัน ปลายเท้าของฮั่วจ่านจี๋ก็แตะพื้น ปีกด้านหลังกระพือ พุ่งเข้าหาพวกเขาในทันที
สำหรับหน่วยหลานอิ๋นแล้ว ข้อได้เปรียบที่ใหญ่ที่สุดในการต่อสู้กับเจ็ดประหลาดแห่งสื่อไหลเค่อก็คือพวกเขาได้รู้จากประวัติศาสตร์ว่าความสามารถของคนเหล่านี้คืออะไร ทุกคนล้วนมีสี่วงแหวนวิญญาณ เช่นนั้นแล้วก็ย่อมมีเพียงสี่ทักษะวิญญาณเท่านั้น ตำนานของทวีปโต้วหลัวเหล่านี้ วีรกรรมของเจ็ดประหลาดแห่งสื่อไหลเค่อรุ่นแรกถึงกับถูกนำไปสร้างเป็นละครโทรทัศน์ ทักษะของพวกเขาทั้งหมดฮั่วจ่านจี๋สามารถท่องจำได้
ดูเผินๆ ถังซานและไต้มู่ไป๋คือพลังรบที่แข็งแกร่งที่สุดในทีม ถังซานยิ่งเป็นแกนหลักที่แท้จริง แต่ว่า ในบรรดาเจ็ดประหลาดแห่งสื่อไหลเค่อ อันที่จริงแล้วไม่มีใครที่สามารถมองข้ามได้เลย
เช่น วิญญาจารย์สายโจมตีว่องไว จูจู๋ชิง ไม่เพียงแต่จะมีความเร็วสูงและโจมตีรุนแรง ที่สำคัญกว่านั้นคือ ระหว่างเธอกับไต้มู่ไป๋ ยังมีทักษะผสานวิญญาณยุทธ์ "พยัคฆ์ขาวโลกันตร์" อยู่อีกด้วย หากปล่อยให้พวกเขาใช้ทักษะผสานออกมาได้ ใครในหน่วยหลานอิ๋นจะต้านทานไหว? ต่อให้ต้านได้ ก็ย่อมต้องจ่ายค่าตอบแทนมหาศาลอย่างแน่นอน
ส่วนถังซานกับเสียวอู่ยิ่งเป็นคู่หูทองคำ ถังซานที่มีเสียวอู่อยู่ข้างกาย พลังต่อสู้จะยกระดับขึ้นอย่างมหาศาล
ดังนั้น ตอนที่ฮั่วจ่านจี๋วางแผนการรบ สิ่งแรกที่เขาพุ่งเป้าไป ก็คือเสียวอู่กับจูจู๋ชิง โดยอาศัยความได้เปรียบที่ตนเองมีเพียงสามวงแหวนเป็นเหยื่อล่อ ทำให้อีกฝ่ายที่เป็นสายโจมตีว่องไวสองคนนี้ต้องมาโจมตีตนเอง อย่างน้อยก็จะมาหนึ่งคน จัดการไปทีละคน
แน่นอนว่า เขาย่อมไม่ไปสังหารหรือทำร้ายอีกฝ่ายอย่างหนักหน่วงเด็ดขาด อย่าเพิ่งพูดว่าเจ็ดประหลาดแห่งสื่อไหลเค่อรุ่นแรกเป็นไอดอลในใจของพวกเขา แค่รัศมีตัวเอกที่อยู่บนร่างของคนเหล่านี้ หากตนเองพยายามจะสังหาร ก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
และขอเพียงแค่โยนพวกเธอลงจากเวทีการประลอง เช่นนั้นแล้ว พวกเธอก็ไม่สามารถทำการแข่งขันต่อไปได้อีก
เหตุผลที่ในตอนนี้พุ่งไปยังถังซานกับไต้มู่ไป๋ ก็เพื่อไม่ให้โอกาสพวกเขาได้กลับไปรับเสียวอู่กับจูจู๋ชิง
ในขณะเดียวกัน ทักษะทีมแบ่งปันการรับรู้ทางจิตก็เปิดใช้งาน
“พวกเจ้าร่วมมือกัน ควบคุมคนอื่นๆ โยนลงจากเวทีการประลอง ถังซานกับไต้มู่ไป๋มอบให้ข้าจัดการ” ฮั่วจ่านจี๋กล่าวเสียงเข้ม
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการระเบิดพลังสุดกำลังของอีกฝ่าย เดิมทีสมาชิกหน่วยหลานอิ๋นทุกคนต่างก็สิ้นหวังแล้ว แต่เมื่อถังซานกับไต้มู่ไป๋ถึงกับไม่สนใจที่จะไปจัดการกับฉีสือเพื่อที่จะพุ่งไปยังฮั่วจ่านจี๋ก่อน พวกเขาถึงได้พบว่า ฮั่วจ่านจี๋กลับได้จัดการกับเสียวอู่และจูจู๋ชิงไปแล้ว
นี่มันช่างน่าเหลือเชื่อเพียงใด! แต่ว่า เขาก็ทำได้
ในตอนนี้ทุกคนถึงได้พบว่า ฮั่วจ่านจี๋กลับได้เติบโตถึงระดับนี้แล้ว
ถังซานยกมือขึ้น พันธนาการใยแมงมุมก็พุ่งเข้าครอบฮั่วจ่านจี๋ ไต้มู่ไป๋ยิ่งอ้าปากพ่นแสงสีขาวออกมา ทักษะวิญญาณที่สอง คลื่นแสงพยัคฆ์ขาว
ในตอนนี้พวกเขาทั้งคู่ต่างเข้าใจดีว่า หากไม่จัดการกับหัวหน้าของอีกฝ่ายผู้นี้ วันนี้คงจะยุ่งยากแล้ว
ปีกเทวทูตตกสวรรค์ด้านหลังของฮั่วจ่านจี๋ขยับเล็กน้อย ก็เปลี่ยนทิศทางแล้ว หอกไม้แทงออกไปเบาๆ เฉือนไปที่ขอบของพันธนาการใยแมงมุม ทำให้มันเบี่ยงเบนออกไป และก็หลบเลี่ยงการโจมตีของคลื่นแสงพยัคฆ์ขาวไปได้อย่างเป็นธรรมชาติ
และในตอนนี้ ถังซานก็พลันตระหนักถึงปัญหาข้อหนึ่ง... การต่อสู้กลางอากาศ พวกเขาไม่ถนัด
แม้จะอาศัยไส้กรอกสีชมพูเหินฟ้าของเอ้าซือข่าทำให้สามารถบินในอากาศได้ แต่นี่ก็ไม่ใชความสามารถดั้งเดิมของพวกเขา! พวกเขาแทบจะไม่มีทักษะการบินใดๆ เลยก็ว่าได้ และคู่ต่อสู้กลับดูเหมือนจะเชี่ยวชาญด้านนี้อย่างยิ่ง
“มู่ไป๋ พวกเรากลับไป รวมตัวกับทุกคน” ถังซานทำการตัดสินใจอย่างเยือกเย็นในทันที สองมือพลันปลดปล่อยเถาวัลย์เส้นแล้วเส้นเล่าออกมา ปิดกั้นไปยังฮั่วจ่านจี๋ พร้อมกันนั้นก็ร่วงหล่นลงสู่พื้นอย่างรวดเร็ว
การตัดสินใจของฮั่วจ่านจี๋ถูกต้องอย่างยิ่ง หากจะบอกว่าจูจู๋ชิงคือจุดอ่อนของไต้มู่ไป๋ เช่นนั้นแล้ว เสียวอู่ก็ย่อมเป็นจุดอ่อนของถังซานอย่างแน่นอน เมื่อจูจู๋ชิงกับเสียวอู่ตกอยู่ในอันตราย ต่อให้ถังซานในฐานะตัวเอกของยุคนี้ ใจก็ยุ่งเหยิงแล้ว นี่ถึงได้ไม่สนใจทุกสิ่งทุกอย่างพุ่งเข้ามาเพื่อจะช่วยเหลือ
แต่โอกาสที่ฮั่วจ่านจี๋สร้างขึ้นมาอย่างยากลำบาก ไหนเลยจะให้พวกเขาหลุดพ้นไปได้?
ระเบิดพลังจิตใช้ออกไปอีกครั้ง!
ถังซานกับไต้มู่ไป๋รู้สึกเพียงว่าสมองราวกับถูกค้อนหนักทุบ ในชั่วพริบตาเบื้องหน้าพลันว่างเปล่า เถาวัลย์หญ้าเงินครามที่ถังซานปล่อยออกมาก็พลันเสียการควบคุม
ในตอนนี้ฮั่วจ่านจี๋ระเบิดพลังออกมาแล้ว!
เขารู้ดีว่า ถังซานยังมีไพ่ตาย เขายังมีวิญญาณยุทธ์ที่สองค้อนเฮ่าเทียน วิญญาณยุทธ์สายอาวุธที่แข็งแกร่งที่สุดในยุคนั้น ยิ่งมีกระดูกวิญญาณภายนอกแปดหอกแมงมุมซึ่งเป็นอาวุธสังหารใหญ่อีกด้วย และยังมีรัศมีตัวเอกคอยคุ้มครองอีก
ในสถานการณ์เช่นนี้ จะต้องไม่ปล่อยให้เขาและไต้มู่ไป๋กลับไปรวมกับอีกสามคนที่เหลือได้อย่างเด็ดขาด มิฉะนั้นแล้ว หากปล่อยให้ห้าประหลาดแห่งสื่อไหลเค่อตั้งหลักได้ พวกเขาเกรงว่าก็ยังคงไม่ใช่คู่ต่อสู้
ดังนั้น ฮั่วจ่านจี๋จึงไม่ลังเลที่จะเลือกปลดปล่อยความสามารถทั้งหมดของตนเองออกมาในวินาทีนี้
ฉวยโอกาส! นี่คือบทเรียนที่สำคัญที่สุดที่เขาได้เรียนรู้มาจากราชสีห์ทองสามตา
ทักษะเสริมคลั่งทำงาน ค่าสถานะทั้งหมดเพิ่มขึ้น หน้าผากแยกออก ดวงตาแนวตั้งปรากฏขึ้นในสถานการณ์ที่ฮั่วจ่านจี๋กระตุ้นพลังจิตของตนเองอย่างสุดกำลัง ทำให้พลังจิตเบ่งบานถึงขีดสุด
เป็นระเบิดพลังจิตเช่นเดียวกัน แต่มีการเสริมพลังจากร่างเทวทูตตกสวรรค์และคลั่ง บวกกับการเปิดออกของเนตรแห่งโชคชะตา ได้ยกระดับขึ้นถึงขีดสุดแล้ว
ดังนั้น ต่อให้เป็นความแข็งแกร่งของถังซานกับไต้มู่ไป๋ ในชั่วพริบตานี้สมองก็ราวกับถูกสายฟ้าฟาด ที่จมูกและหูมีเลือดไหลซึมออกมา
ฮั่วจ่านจี๋ร่างกับหอกเป็นหนึ่งเดียว แทงไปยังถังซานอย่างรวดเร็วดุจสายฟ้า เขารู้ว่า หากต้องการจะเอาชนะเจ็ดประหลาดแห่งสื่อไหลเค่อ ถังซานคือหัวใจสำคัญที่แท้จริง เพราะบนร่างของเขา มีไพ่ตายมากเกินไป เขายิ่งเป็นจิตวิญญาณของเจ็ดประหลาดแห่งสื่อไหลเค่อทั้งหมด จะต้องไม่ปล่อยให้ถังซานมีโอกาสได้หายใจหายคอ
พลังจิตในตอนนี้ของฮั่วจ่านจี๋ทะลุร้อยแล้ว บวกกับการระเบิดพลังอย่างสุดกำลัง ระเบิดพลังจิตเมื่อครู่นี้ ทำร้ายทะเลแห่งจิตของถังซานกับไต้มู่ไป๋อย่างหนักหน่วงจริงๆ ร่างกับหอกเป็นหนึ่งเดียว เพลงหอกที่ทรงพลังซึ่งเรียนรู้มาจากราชสีห์ทองสามตา "ทุ่มสุดตัว" ทำงาน
“แคร๊ง!”
ถังซานในท้ายที่สุดก็สมแล้วที่เป็นบุรุษผู้มีรัศมีตัวเอกคุ้มครอง ในชั่วพริบตาที่คับขัน ในที่สุดเขาก็ฟื้นคืนสติกลับมาได้ วิญญาณยุทธ์ที่สองค้อนเฮ่าเทียนก็ปรากฏขึ้นในทันทีเช่นกัน ป้องกันไว้ที่หน้าอกของตนเอง
หอกไม้ของฮั่วจ่านจี๋แทงเข้าที่ค้อนเฮ่าเทียนนี้พอดี และในตอนนี้ในหัวของถังซานก็ฉายแววประหลาดใจวูบหนึ่ง ทำไมเขาถึงเลือกที่จะโจมตีอกขวาของตนเอง แทนที่จะเป็นอกซ้ายที่มีหัวใจ?
แต่ก็ในขณะนี้เอง แรงกระแทกมหาศาลก็ถาโถมเข้ามา ถังซานที่ไม่ทันได้เตรียมตัว ร่างกายก็ถูกการโจมตีทุ่มสุดตัวของฮั่วจ่านจี๋กระแทกจนกระเด็นถอยหลังออกไป พุ่งตรงไปยังนอกเวทีการประลอง
ค้อนเฮ่าเทียนในมือของถังซานก็กระแทกเข้ากับหน้าอกของเขาภายใต้แรงกระแทก ทำให้เขากระอักเลือดออกมาอีกคำหนึ่ง แต่ปฏิกิริยาของเขารวดเร็วอย่างยิ่ง เขารีบเก็บปีกแสงที่ได้มาจากไส้กรอกเห็ดบินในทันที ร่างกายแม้จะอยู่ภายใต้แรงกระแทก แต่ก็ยังคงบินเฉียงลงไปด้านล่าง พร้อมกันนั้นก็พยายามปลดปล่อยหญ้าเงินคราม พุ่งไปยังทิศทางของเวทีการประลอง ด้านหลัง แปดหอกแมงมุมก็ได้ถูกปลดปล่อยออกมาแล้ว ขอเพียงแค่ให้เขาสัมผัสกับพื้นได้ เขาก็จะสามารถใช้แปดหอกแมงมุมประคองร่างกายของตนเอง ปรับตัวแล้วสู้ต่อได้ มีไส้กรอกใหญ่ฟื้นฟูของเอ้าซือข่า เขาย่อมสามารถเข้าร่วมการแข่งขันต่อไปได้อย่างแน่นอน
แต่ว่า ในขณะนี้เอง เงาดำสายหนึ่งก็พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วดุจสายฟ้า กระแทกเข้ากับร่างของถังซานอย่างแรงอีกครั้ง ถังซานเผยสีหน้าตกตะลึง เขายิ่งได้เห็นกับตาว่าฮั่วจ่านจี๋ถูกพยัคฆ์ขาวฝนดาวตกที่พุ่งมาจากด้านหลังกระแทกจนกระเด็นออกไป แต่ในทำนองเดียวกัน เขาก็ถูกร่างเงาที่พุ่งเข้ามานั้นกระแทกจนกระเด็นออกจากเวทีการประลอง
เขาใช้ทุกวิถีทางแล้ว หญ้าเงินครามในท้ายที่สุดก็ยังไม่เพียงพอที่จะจับพื้นได้
และอีกด้านหนึ่ง แม้ฮั่วจ่านจี๋จะถูกพยัคฆ์ขาวฝนดาวตกซัดจนกระเด็น แต่พยัคฆ์ขาวฝนดาวตกที่ไต้มู่ไป๋พยายามระเบิดพลังออกมาก็ไม่ได้รุนแรงนัก และลู่อี้ซินในตอนนี้ก็ได้คลายจากมนต์เสน่ห์แล้ว แม้เขาจะกำลังช่วยสหายโจมตีหม่าหงจวิ้นอยู่ แต่ก็ยังคงใช้ทักษะเชื่องช้าแก่ทางนี้ในจังหวะสำคัญ ทำให้ตอนที่พยัคฆ์ขาวฝนดาวตกปะทะฮั่วจ่านจี๋แรงกระแทกก็ลดลงอย่างมาก
ปีกทั้งสองข้างด้านหลังปกป้องร่างกาย หลังจากที่ใช้ทุ่มสุดตัวแล้วฮั่วจ่านจี๋ในตอนนี้ก็ตกอยู่ในสภาวะอ่อนแอชั่วครู่ ร่างกายกระแทกลงบนเวทีการประลอง พลิกตัวต่อเนื่องหลายครั้ง ถึงจะลุกขึ้นยืนได้
ถังซานออกจากการแข่งขัน!
ฮั่วจ่านจี๋ใช้หอกไม้พยุงร่างกายของตนเอง หอบหายใจอย่างหนัก การลงมืออย่างสุดกำลังต่อเนื่องเมื่อครู่ ไม่ว่าจะเป็นสติปัญญาหรือความแข็งแกร่ง ล้วนใช้ไปจนถึงขีดสุด โชคดีที่ก่อนหน้านี้ได้ใช้กลืนกินอสูรสวรรค์กับชิงวิญญาณอสูรสวรรค์ดูดซับพลังวิญญาณและพลังจิตจากเสียวอู่กับจูจู๋ชิงมาไม่น้อย มิฉะนั้นแล้ว ตอนนี้เกรงว่าเขาคงจะไม่มีแรงสู้ต่อแล้ว
แม้แต่ร่างแยกอสูรสวรรค์ก็ใช้ไปแล้ว และเพื่อให้แน่ใจว่าจะผลักถังซานออกไปได้ เขายังถึงกับระเบิดร่างแยกทิ้งอีกด้วย ตอนนี้ก็ได้รับผลสะท้อนกลับเช่นกัน
“สารเลว!” เสียงคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวพลันดังขึ้น ไต้มู่ไป๋ที่ตกลงมาไม่ไกลจากฮั่วจ่านจี๋ได้กระโจนเข้ามาแล้ว
ถังซานถูกกระแทกออกจากสนาม ในตอนนี้ในใจของไต้มู่ไป๋ก็เริ่มจะร้อนรนแล้ว ยิ่งไม่รู้สถานการณ์ของคนรักของตนเอง ฝนดาวตกพyคฆ์ขาวไม่ได้ผล เขาได้พุ่งเข้าใส่ฮั่วจ่านจี๋อย่างดุร้ายแล้ว
แต่ว่า ในขณะนี้เอง แรงดึงกลุ่มหนึ่งก็ตกลงบนร่างของเขาทันที ร่างที่เดิมทีพุ่งไปยังฮั่วจ่านจี๋ก็เบี่ยงเบนในทันที ทำได้เพียงพุ่งไปยังอีกทิศทางหนึ่ง
โล่ภูตยักษ์ ยั่วยุ!
ตอนที่ฮั่วจ่านจี๋ทางนี้กำลังทุ่มเทสติปัญญาต่อสู้กับถังซานและไต้มู่ไป๋ อีกด้านหนึ่งก็กำลังต่อสู้เช่นกัน
แม้จะเสียหลี่เจียงฉีไปหนึ่งคน แต่ในหน่วยหลานอิ๋นยังมีวิญญาจารย์สายโจมตีหนักสี่วงแหวนอีกสี่คน!
ไฉเจียเจ๋อใช้ความสามารถยั่วยุของโล่ภูตยักษ์ จำกัดนิ่งหรงหรงไว้อย่างสมบูรณ์ ศึกครั้งนี้ การยั่วยุของเขาอันที่จริงมีบทบาทที่สำคัญอย่างยิ่งยวด เมื่อไม่มีการเสริมพลังของหอแก้วเก้าสมบัติ พลังต่อสู้โดยรวมของเจ็ดประหลาดแห่งสื่อไหลเค่ออันที่จริงก็ลดลงอย่างมาก
เมื่อไม่มีการคุ้มครองของถังซานกับไต้มู่ไป๋ หม่าหงจวิ้นต้องเผชิญหน้ากับหยวนเอินซิงเถียน, ฉีสือ และชิวจื่อเสวียน สามต่อหนึ่ง หม่าหงจวิ้นเองก็เป็นคนที่อ่อนแอกว่าในบรรดาเจ็ดประหลาดแห่งสื่อไหลเค่อ ถูกกดดันจนไม่มีโอกาสตอบโต้เลย
อีกด้านหนึ่ง ไฉเจียเจ๋อคนเดียวต่อสู้กับวิญญาจารย์สายสนับสนุนที่แทบจะไม่มีพลังต่อสู้เลยสองคน ผลลัพธ์ย่อมเห็นได้ชัดเจน
หน้าไม้เทพจูเก่อในมือของเอ้าซือข่าไม่สามารถทะลวงการป้องกันของโล่ภูตยักษ์ได้เลย ด้านความเร็วพวกเขาก็ไม่ถนัดเช่นกัน ถูกไฉเจียเจ๋อใช้โล่ภูตยักษ์กระแทกออกจากเวทีการประลองทีละคน ตกลงไปข้างนอก
เมื่อไฉเจียเจ๋อว่างมือแล้ว ก็เป็นตอนที่อีกด้านหนึ่งไต้มู่ไป๋กำลังโจมตีฮั่วจ่านจี๋พอดี การยั่วยุหนึ่งครั้ง ก็ดึงดูดเขาไว้ได้
การต่อสู้สามต่อหนึ่งก็สิ้นสุดลงแล้วเช่นกัน ความแข็งแกร่งรายบุคคลหน่วยหลานอิ๋นย่อมสู้เจ็ดประหลาดแห่งสื่อไหลเค่อไม่ได้ แต่ในสถานการณ์สามต่อหนึ่ง ความแข็งแกร่งของหยวนเอินซิงเถียนก็เป็นรองเพียงฮั่วจ่านจี๋ บวกกับชิวจื่อเสวียนที่เต็มไปด้วยจิตสังหารอีกหนึ่งคน ซัดหม่าหงจวิ้นจนไม่มีแรงต้านทาน ฟีนิกซ์เพลิงอสูรดับไฟ ก็ถูกโยนลงจากเวทีการประลองเช่นกัน
การต่อสู้มาถึงตอนนี้อันที่จริงก็ไม่มีอะไรต้องลุ้นแล้ว ไต้มู่ไป๋ต่อให้จะแข็งแกร่งเพียงใด คนเดียวก็ย่อมไม่อาจต้านทานได้ ฮั่วจ่านจี๋พักหายใจหายคอ ควบคุมไต้มู่ไป๋คู่กับลู่อี้ซิน อีกสี่คนที่เหลือก็โจมตีอย่างสุดกำลัง
ต่อให้เป็นเช่นนี้ โล่ภูตยักษ์ของไฉเจียเจ๋อก็เกือบจะถูกทลายแล้ว สุดท้ายต้องจำใจกระโดดลงจากเวทีการประลองเอง ในที่สุด ไต้มู่ไป๋ถึงจะถูกควบคุมไว้ได้
“ทีมสถาบันสื่อไหลเค่อทั้งหมดตกเวที การแข่งขันสิ้นสุดลง ทีมสถาบันสำนักวิญญาณยุทธ์ได้รับตำแหน่งชนะเลิศของการประลองสุดยอดวิญญาจารย์ทั่วทั้งทวีปครั้งนี้” บาทหลวงประกาศเสียงดัง
0 comments:
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น