📚 Douluo Dalu 5.5 : Douluo World (Side Story)
บทที่ 6 โลกโต้วหลัว
บทที่ 6 โลกโต้วหลัว
ลู่อี้ซินไม่ได้ถามระดับการประเมินของฮั่วจ่านจี๋ ฮั่วจ่านจี๋ก็ไม่ได้บอก เขาเป็นคนสุขุมมาตั้งแต่เด็ก ไม่ชอบโอ้อวด ยิ่งไปกว่านั้น เขารู้ดีว่าครั้งนี้ที่ตนเองสามารถได้ระดับ A นั้นเกี่ยวข้องกับโชค เกี่ยวข้องกับการได้รับเคล็ดอสูรสวรรค์ และอีกอย่างคือตนเองใช้เวลาที่ค่อนข้างสั้นในการข้ามผ่าน หากว่ากันเรื่องพรสวรรค์ ย่อมไม่สามารถเทียบกับเพื่อนร่วมชั้นคนอื่นๆ ได้อย่างแน่นอน
ขณะที่พวกเขากำลังพูดคุยกันอยู่ ด้านนอกก็มีหญิงสาวหน้าตาสะสวยดูอายุราวๆ ยี่สิบกว่าปีเดินเข้ามา
ขณะที่เธอเดินเข้ามาในห้องเรียน เธอก็ถือโอกาสปิดประตูไปด้วย
“สวัสดีจ้ะนักเรียนทุกคน ยินดีต้อนรับสู่ปีหนึ่ง ห้องหนึ่ง ฉันชื่อหลานอิ๋นไห่ เป็นอาจารย์ประจำชั้นของพวกเธอ”
สายตาของนักเรียนทั้งแปดคนพลันจับจ้องไปที่อาจารย์ท่านนี้
อาจารย์หลานท่านนี้ดูอ่อนโยนอย่างยิ่ง บนใบหน้ามีรอยยิ้มจางๆ อยู่เสมอ ทำให้ผู้คนรู้สึกดี
“ห้องหนึ่งของเราเดิมทีวางแผนไว้ว่าจะมีนักเรียนเจ็ดคน แต่เนื่องจากมีนักเรียนที่มีผลงานโดดเด่นในการประเมิน จึงได้เพิ่มนักเรียนเข้ามาอีกหนึ่งคน”
วางแผนเจ็ดคน เพิ่มมาหนึ่งคน คนที่เพิ่มเข้ามาก็คือตัวเองไม่ใช่หรือ? ฮั่วจ่านจี๋คิดในใจ
หลานอิ๋นไห่กล่าวต่อไป: “การที่สามารถมาอยู่ที่ห้องหนึ่งได้ พิสูจน์ให้เห็นว่าพวกเธอทุกคนมีผลงานที่ยอดเยี่ยมอย่างยิ่งในการประเมินนักเรียนใหม่ก่อนหน้านี้ สถานที่ที่พวกเธอทุกคนเข้าไปทำการประเมินก่อนหน้านี้มีชื่อว่าโลกโต้วหลัว ที่ที่พวกเธอใช้ก่อนหน้านี้ คือพื้นที่ประเมินนักเรียนใหม่ที่โลกโต้วหลัวเปิดขึ้นมาเพื่อสถาบันสื่อไหลเค่อของเราโดยเฉพาะ ซึ่งเชื่อมต่อกับโลกโต้วหลัวอย่างเป็นทางการ บทเรียนในวันนี้ ก็จะอธิบายสถานการณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวกับโลกโต้วหลัวให้พวกเธอฟังเป็นหลัก ก่อนหน้านั้น ขอให้นักเรียนทุกคนแนะนำตัวเองก่อนนะจ๊ะ ชื่อ อายุ วิญญาณยุทธ์ แล้วก็ระดับการประเมินในการประเมินนักเรียนใหม่ของพวกเธอ”
พลางพูด สายตาของเธอก็มองไปยังเด็กผู้ชายคนที่อยู่ซ้ายมือสุด กล่าวว่า: “เริ่มจากเธอเลยจ้ะ”
เด็กผู้ชายคนนั้นคือคนที่แสดงท่าทีเย็นชาที่สุดตอนที่ฮั่วจ่านจี๋เดินเข้ามาในประตู
เขาลุกขึ้นยืน กล่าวเรียบๆ: “ไฉเจียเจ๋อ อายุสิบสองปี วิญญาณยุทธ์มังกรเกราะชาด ระดับการประเมินนักเรียนใหม่ B+”
“ว้าว ระดับ B+ เชียว” ลู่อี้ซินที่อยู่ข้างๆ ฮั่วจ่านจี๋อดอุทานออกมาเบาๆ ไม่ได้
คนที่นั่งอยู่ด้านหลังไฉเจียเจ๋อ ก็เป็นนักเรียนชายเช่นกัน ลุกขึ้นยืนตามทันที “สวัสดีครับอาจารย์ ผมชื่อจางเหิงรุ่ย อายุสิบสองปี วิญญาณยุทธ์ภูตวายุ วิญญาณภูตเดี่ยวประเภทเติบโต ระดับการประเมินนักเรียนใหม่ B”
ถัดมาเป็นนักเรียนหญิงแถวที่สอง ดวงตาของเธอโตมาก ดูองอาจผึ่งผาย “สวัสดีค่ะอาจารย์ สวัสดีเพื่อนๆ ทุกคน ฉันชื่อหลี่เจียงฉี อายุสิบสองปี วิญญาณยุทธ์วานรยักษ์ไททัน ระดับการประเมินนักเรียนใหม่ B+”
เมื่อได้ยินคำว่าวิญญาณยุทธ์วานรยักษ์ไททัน สายตาของนักเรียนทุกคนแทบจะจับจ้องไปที่เธอในทันที นั่นคือวานรยักษ์ไททัน! วิญญาณยุทธ์ในตำนาน ไม่คาดคิดว่าท่านผู้นี้จะเป็นผู้สืบทอดวิญญาณยุทธ์วานรยักษ์ไททัน
ถัดมาก็ถึงตาของลู่อี้ซิน ลู่อี้ซินลุกขึ้นยืน กล่าวด้วยรอยยิ้ม: “สวัสดีครับอาจารย์ สวัสดีทุกคน ผมชื่อลู่อี้ซิน อายุสิบสองปี วิญญาณยุทธ์นาฬิกา สายควบคุม ระดับการประเมินนักเรียนใหม่ B-”
นาฬิกา? สายเวลาหรือ? เมื่อฮั่วจ่านจี๋มองลู่อี้ซินอีกครั้ง ในดวงตาก็ฉายแววประหลาดใจ
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า วิญญาณยุทธ์ที่เพื่อนร่วมชั้นหลายคนก่อนหน้านี้พูดถึง หลายอย่างล้วนเป็นสิ่งที่อาจารย์ที่สถาบันระดับต้นของเขานำมาใช้เป็นกรณีศึกษา หรือแม้กระทั่งเป็นสิ่งที่อยู่ในตำนาน
วิญญาณยุทธ์สายเวลา นี่เป็นสิ่งที่หายากอย่างยิ่งยวด ไม่ได้ด้อยไปกว่าเพื่อนร่วมชั้นหลายคนก่อนหน้านี้เลย
ถัดมาก็ถึงแถวของฮั่วจ่านจี๋ ข้างหน้าเขายังมีนักเรียนหญิงร่างเล็กคนหนึ่ง
เด็กหญิงลุกขึ้นยืน กล่าวด้วยรอยยิ้ม: “สวัสดีทุกคน ฉันชื่อหยวนเอินซิงเถียน วิญญาณยุทธ์มังกรมารทมิฬ ระดับการประเมินนักเรียนใหม่ A-”
เมื่อหยวนเอินซิงเถียนแนะนำตัวเองจบ สายตาของคนอื่นๆ ก็พลันชะงักไปเล็กน้อย
มังกรมารทมิฬ ในบรรดาเผ่ามังกรถือเป็นการดำรงอยู่ที่แข็งแกร่งอย่างยิ่ง ตรงกันข้ามกับมังกรศักดิ์สิทธิ์แห่งแสง เด็กสาวตัวเล็กๆ ที่ดูน่ารักหวานแหววเช่นนี้กลับมีวิญญาณยุทธ์มังกรมารทมิฬ? รอยยิ้มที่เดิมทีดูหวานแหววของเธอดูในสายตาของนักเรียนทุกคนดูเหมือนจะผิดปกติไปบ้าง ยิ่งไปกว่านั้น ระดับการประเมินนักเรียนใหม่ของเธอยังเป็น A- อีกด้วย
นักเรียนแปดคนมีห้าคนที่แนะนำตัวเองเสร็จแล้ว ถัดมาก็ถึงตาของฮั่วจ่านจี๋
ฮั่วจ่านจี๋ลุกขึ้นยืน กล่าวว่า: “สวัสดีครับอาจารย์ สวัสดีเพื่อนๆ ทุกคน ผมชื่อฮั่วจ่านจี๋ อายุสิบสองปี วิญญาณยุทธ์เนตรวิญญาณ ระดับการประเมินนักเรียนใหม่...”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ เขาหยุดไปเล็กน้อย แล้วจึงกล่าวอย่างสงบ: “ระดับ A”
หยวนเอินซิงเถียนที่นั่งอยู่ข้างหน้าฮั่วจ่านจี๋แทบจะหันกลับมาในทันที มองเขาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
เพื่อนร่วมชั้นคนอื่นๆ มองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความตกตะลึง ลู่อี้ซินถึงกับอ้าปากค้าง “ให้ตายสิ ระดับ A เทพเซียนชัดๆ!”
พวกเขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับวิญญาณยุทธ์ของฮั่วจ่านจี๋ที่เป็นเนตรวิญญาณ เพราะตอนที่พวกเขาเริ่มเรียนรู้วิญญาณยุทธ์ใหม่ๆ อาจารย์ก็เคยเล่าว่า ในโลกใบนี้ ไม่มีวิญญาณยุทธ์ที่ไร้ค่า มีเพียงวิญญาจารย์ที่ไร้ค่าเท่านั้น
สิ่งที่ทำให้พวกเขาตกตะลึงคือระดับการประเมินนักเรียนใหม่ในโลกโต้วหลัวของฮั่วจ่านจี๋ พวกเขาทุกคนเคยเข้าร่วมการประเมินนักเรียนใหม่ ดังนั้นจึงรู้ดีว่าการประเมินนั้นยากเพียงใด ระดับ A นี่เป็นผลการผ่านด่านที่แข็งแกร่งขนาดไหนกัน!
มีเพียงหลานอิ๋นไห่ที่เป็นอาจารย์เท่านั้นที่สีหน้ายังคงปกติ เธอยิ้มและพยักหน้าให้ฮั่วจ่านจี๋
ฮั่วจ่านจี๋กลับไปนั่งที่เดิม
คนถัดไปที่แนะนำตัวเองยังคงเป็นนักเรียนหญิง เธอลุกขึ้นยืน ผมยาวเกินเอวก็ปรากฏขึ้นมาทันที เธอเป็นคนที่สูงที่สุดในบรรดานักเรียนหญิง เพราะนั่งอยู่ที่มุมห้อง ดังนั้นก่อนหน้านี้ฮั่วจ่านจี๋จึงไม่ได้สังเกตมากนัก ในตอนนี้เมื่อหันกลับไปมอง ก็รู้สึกราวกับมีอะไรบางอย่างสว่างวาบขึ้นมา
เด็กสาวอายุสิบสองปีเริ่มเติบโตเป็นสาวแล้ว ผมยาวสีดำเกินเอว รูปร่างสูงโปร่งสง่างาม ดวงตาสีฟ้าครามคูหนึ่งดึงดูดสายตามากที่สุด ใบหน้างดงามอย่างยิ่ง
“สวัสดีค่ะอาจารย์ ฉันชื่อชิวจื่อเสวียน อายุสิบสองปี วิญญาณยุทธ์กระบี่เทพดารา ระดับการประเมินนักเรียนใหม่ C+”
หากจะบอกว่าระดับการประเมินของฮั่วจ่านจี๋สูงจนน่าตกใจ ระดับการประเมินของคนตรงหน้านี้ก็ต่ำจนน่าตกใจเช่นกัน
เมื่อครู่นี้ลู่อี้ซินยังพูดกับฮั่วจ่านจี๋อยู่เลยว่า หากจะเข้าห้องหนึ่งอย่างน้อยต้องได้ระดับ B ขึ้นไป แต่คนนี้กลับได้เพียงระดับ C+ เท่านั้น แต่ก็ยังได้เข้าห้องหนึ่ง
ชิวจื่อเสวียนดูเหมือนจะไม่ได้รู้สึกอะไรกับระดับการประเมินที่ต่ำของตนเอง พูดจบแล้วก็นั่งลงอย่างสงบ
นักเรียนชายคนสุดท้ายลุกขึ้นยืน หากมองเพียงภายนอก คนนี้คือคนที่ไม่โดดเด่นที่สุดในบรรดาเพื่อนร่วมชั้นทั้งแปดคน เขามีหน้าตาธรรมดา รูปร่างปานกลาง ทุกอย่างดูธรรมดามาก เป็นประเภทที่ยากจะถูกสังเกตเห็น
“สวัสดีครับอาจารย์ สวัสดีทุกคน ผมชื่อฉีสือ อายุสิบสามปี วิญญาณยุทธ์: กายา ระดับการประเมินนักเรียนใหม่ B-”
วิญญาณยุทธ์: กายา มันคืออะไรกัน? นักเรียนคนอื่นๆ อดสงสัยไม่ได้
“ดีมาก ขอต้อนรับทุกคนเข้าสู่ห้องหนึ่งอีกครั้งนะจ๊ะ” นักเรียนทุกคนแนะนำตัวเองเสร็จแล้ว หลานอิ๋นไห่ยิ้มพลางดึงดูดสายตาของทุกคนมาที่ตนเอง
“ก่อนที่จะเริ่มอธิบายเกี่ยวกับสถานการณ์ของโลกโต้วหลัว ฉันจะบอกข้อมูลบางอย่างให้พวกเธอฟังก่อน โลกโต้วหลัว เป็นการดำรงอยู่ที่พิเศษอย่างยิ่งซึ่งถูกสร้างขึ้นโดยผู้มีอำนาจยิ่งใหญ่จำนวนมากร่วมกัน นักเรียนใหม่รุ่นพวกเธอ เป็นกลุ่มแรกที่ได้สัมผัสกับโลกนี้ ในอนาคต การเติบโต การบำเพ็ญเพียรของพวกเธอ ส่วนใหญ่ก็จะสำเร็จลงในโลกโต้วหลัวเช่นกัน การประเมินนักเรียนใหม่ครั้งนี้ก็เป็นการทดลองครั้งแรก สถาบันสื่อไหลเค่อทั้งสิบเจ็ดสาขาทั่วดาวโต้วหลัวดำเนินการพร้อมกัน จำนวนนักเรียนใหม่ทั้งหมดที่เข้ารับการประเมินคือ แปดพันเก้าร้อยหกสิบสามคน ในจำนวนนั้น ผู้ที่ไม่ผ่านการประเมิน มีสี่พันห้าร้อยสิบสองคน ผู้ที่ได้ระดับ D สามพันหกร้อยแปดสิบแปดคน ผู้ที่ได้ระดับ C หกร้อยเจ็ดสิบคน ผู้ที่ได้ระดับ B แปดสิบเจ็ดคน ผู้ที่ได้ระดับ A หกคน ในแต่ละระดับการประเมินจะรวมถึงระดับย่อยสามระดับคือ สูง กลาง และต่ำ”
“ในจำนวนนั้น ผู้ที่ไม่ผ่าน หมายถึงนักเรียนที่ไม่เคยผ่านการประเมิน และไม่ได้แสดงคุณสมบัติที่ควรมีในการประเมิน ทั้งหมดจะถูกแนะนำให้ลาออก ไม่ได้รับอนุญาตให้เรียนที่สถาบันสื่อไหลเค่อ ผู้ที่ได้ระดับ D คือนักเรียนที่ไม่เคยผ่านการประเมิน แต่ได้แสดงคุณสมบัติที่น่าพอใจ นักเรียนเหล่านี้จะได้รับอนุญาตให้เรียนต่อที่สถาบันสื่อไหลเค่อ โดยจะได้รับการสอนตามวิธีการสอนแบบเดิม นักเรียนที่ได้ระดับ C ขึ้นไปเท่านั้น จึงจะสามารถเข้าร่วมการทดลองแบบใหม่ได้ ในอนาคตก็จะเติบโตและเรียนรู้ในโลกโต้วหลัวเหมือนกับพวกเธอ โดยจะถูกจัดชั้นเรียนที่แตกต่างกันไปตามระดับที่แตกต่างกัน”
“ตอนที่พวกเธอเข้าเรียน ตามวิญญาณยุทธ์ อายุ ผลการเรียนที่สถาบันระดับต้นของพวกเธอ ก็จะมีการประเมินพรสวรรค์ของพวกเธออยู่แล้ว แต่พรสวรรค์ไม่ได้หมายถึงทุกสิ่ง ในการประเมินครั้งนี้ นักเรียนที่มีพรสวรรค์ระดับ B หลายคนถึงกับไม่สามารถผ่านการประเมินพื้นฐานที่สุดได้ แม้แต่ระดับ D ก็ยังไม่ถึง แต่ก็มีนักเรียนที่มีพรสวรรค์ระดับต่ำที่ได้รับผลการเรียนที่ดี นี่เป็นเพราะอะไร? เพราะว่า การประเมินของโลกโต้วหลัวที่มีต่อพวกเธอนั้นเป็นแบบองค์รวม ต่อให้คนคนหนึ่งมีพรสวรรค์ดีแค่ไหน หากจิตใจไม่แน่วแน่พอ ก็ไม่สามารถได้รับผลการเรียนที่ดีได้ ความรู้แบบองค์รวมก็สามารถมีบทบาทที่สำคัญอย่างยิ่งในโลกโต้วหลัวได้เช่นกัน และห้องของเรา ในบรรดานักเรียนทั้งแปดคน มีระดับ A สองคน ระดับ B ห้าคน และระดับ C หนึ่งคน ในบรรดาสถาบันสื่อไหลเค่อทุกสาขาในปัจจุบัน ผลการประเมินโดยรวมของห้องเราอยู่อันดับที่สอง เป็นรองเพียงห้องหนึ่งของสถาบันสื่อไหลเค่อสำนักงานใหญ่เท่านั้น ดังนั้น ฉันจึงรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้มาเป็นอาจารย์ของพวกเธอ”
สิบเจ็ดสาขา บวกกับสถาบันสื่อไหลเค่อสำนักงานใหญ่ ผลการประเมินนักเรียนใหม่โดยรวมอยู่อันดับที่สอง นี่เป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจจริงๆ
“อาจารย์ครับ อันดับหนึ่งเก่งกว่าเราแค่ไหนเหรอครับ?” ลู่อี้ซินถามอย่างสงสัย
หลานอิ๋นไห่ยิ้ม: “การประเมินนักเรียนใหม่ครั้งนี้มีนักเรียนระดับ A เพียงหกคนเท่านั้น คะแนนโดยรวมที่พวกเขาสามารถได้รับจะสูงมาก ในจำนวนนั้น ระดับ A- มีสี่คน ระดับ A มีสองคน ห้องของเรามีระดับ A หนึ่งคน ระดับ A- หนึ่งคน ทางฝั่งสำนักงานใหญ่ก็เช่นกัน แต่ที่นอกเหนือจากนั้น นักเรียนคนอื่นๆ ในห้องหนึ่งของสำนักงานใหญ่ล้วนได้ระดับ B+ ทั้งหมด ผลการประเมินโดยรวมย่อมอยู่เหนือกว่าเราโดยธรรมชาติ แต่ทุกคนไม่ต้องใส่ใจเรื่องนี้ เพราะสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองสื่อไหลเค่อ เมืองสื่อไหลเค่อมีตระกูลใหญ่ที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนานมากมาย พวกเขาย่อมมีความได้เปรียบอย่างมากโดยธรรมชาติ การที่เราสามารถอยู่อันดับที่สองได้ ก็ทำให้ผู้ใหญ่ของเมืองซิงหลัวของเราตื่นเต้นยินดีมากแล้ว”
เมื่อเธอพูดเช่นนี้ สายตาของเพื่อนร่วมชั้นแทบจะจับจ้องไปที่ฮั่วจ่านจี๋ในทันที
นักเรียนใหม่รุ่นนี้ ระดับ A มีเพียงสองคน เรียกได้ว่าเป็นอันดับหนึ่งร่วมกัน และในห้องนี้กลับมีอยู่คนหนึ่ง กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ หากดูจากการประเมินนักเรียนใหม่ ฮั่วจ่านจี๋ก็คืออันดับหนึ่งของดาวโต้วหลัวทั้งหมด! นี่เป็นแนวคิดแบบไหนกัน? อัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะ สุดยอดอัจฉริยะ?
ฮั่วจ่านจี๋ถูกมองจนรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เขารู้ตัวดี เมื่อได้ฟังวิญญาณยุทธ์ของเพื่อนร่วมชั้นเขาก็เข้าใจว่า เจ้าพวกนี้ต่างหากที่เป็นอัจฉริยะ! อัจฉริยะที่แท้จริง แข็งแกร่งกว่าตนเองไม่รู้เท่าไหร่
“ต่อไป เราจะมาพูดถึงทุกอย่างที่เกี่ยวกับโลกโต้วหลัวกัน” หลานอิ๋นไห่ดึงดูดสายตาของนักเรียนกลับมาที่ตนเองอีกครั้ง
“โลกโต้วหลัว เป็นการดำรงอยู่ที่พิเศษซึ่งถูกสร้างขึ้นโดยผู้มีอำนาจยิ่งใหญ่จำนวนมากร่วมกัน สร้างขึ้นมาได้อย่างไรโดยละเอียดไม่มีใครทราบ นี่น่าจะเป็นความลับสุดยอดของสหพันธ์ หรืออาจจะไม่ใช่แค่สหพันธ์ของเรา ที่ที่พวกเธอไปในการประเมิน ล้วนเป็นโลกจริง โลกเหล่านี้พวกเธอสามารถเข้าใจได้ว่าเป็นดาวเคราะห์ในระนาบที่แตกต่างกัน ทุกระนาบ ทุกดาวเคราะห์ล้วนมีเส้นทางประวัติศาสตร์ของตนเอง และที่ที่พวกเธอถูกส่งย้ายเข้าไป ก็คือสถานที่เหล่านี้ ในนั้น พวกเธอจะได้เผชิญกับการทดสอบ ไปทำภารกิจให้สำเร็จ ได้รับรางวัล ได้รับเบาะแสเพื่อเสริมความแข็งแกร่งของตนเอง”
“ตอนที่ประเมินนักเรียนใหม่ พวกเธอทุกคนต้องเคยได้รับคำเตือน คำเตือนบอกว่า การประเมินนักเรียนใหม่จะรับประกันความปลอดภัยของพวกเธอ ให้การคุ้มครองแก่พวกเธอ นี่เป็นการยืนยันว่า ต่อให้ภารกิจของพวกเธอล้มเหลว ก็จะไม่ได้รับบาดเจ็บอย่างแท้จริง แต่ว่า นั่นไม่ใช่โลกโต้วหลัวที่แท้จริง โลกโต้วหลัวที่แท้จริง จะได้รับบาดเจ็บได้ หรือแม้กระทั่งจะเสียชีวิตได้จริงๆ ตอนนี้เป็นช่วงทดสอบ ผู้มีอำนาจยิ่งใหญ่ได้ทุ่มเทอย่างมหาศาลเพื่อรักษาสภาพของโลกโต้วหลัวไว้ ดังนั้น ในช่วงทดสอบ จะไม่ตายจริงๆ แต่ว่า ในอนาคตเมื่อพวกเธอเข้าไปอีกครั้ง ก็จะไม่ได้รับการคุ้มครองอย่างสมบูรณ์เหมือนตอนเป็นนักเรียนใหม่แล้ว”
“เกี่ยวกับกลไกการให้รางวัลโดยละเอียด พวกเธอจะต้องไปสำรวจในโลกโต้วหลัวในอนาคตเอง วันนี้ฉันจะพูดถึงแค่กลไกการลงโทษ ในโลกโต้วหลัว พวกเธอจะได้รับภารกิจหลากหลายประเภท ในจำนวนนั้น ภารกิจหลักเป็นสิ่งที่ต้องทำให้สำเร็จ หลังจากทำสำเร็จ จะได้รับรางวัลตามระดับความสำเร็จและผลงาน เหมือนกับตอนที่การประเมินนักเรียนใหม่ของพวกเธอสิ้นสุดลง แต่หากทำไม่สำเร็จ ก็จะถูกลงโทษตามระดับความสำเร็จและผลงานเช่นกัน พวกเธอคงจะสงสัยมากว่า บทลงโทษคืออะไร งั้น ตอนนี้ฉันจะบอกพวกเธอว่า รางวัลคืออะไร บทลงโทษก็คือสิ่งนั้น รางวัลจะให้การเพิ่มค่าสถานะพื้นฐานแก่พวกเธอ เช่นนั้นแล้ว บทลงโทษก็จะหักค่าสถานะพื้นฐานของพวกเธอ”
“เนื่องจากอยู่ในช่วงทดสอบ ดังนั้น ก็ยังคงจะรับประกันความปลอดภัยในชีวิตของพวกเธออยู่ หากเสียชีวิตในโลกโต้วหลัว ก็จะถูกส่งตัวกลับมา แต่ว่า บทลงโทษของการเสียชีวิตฉันเชื่อว่าไม่มีใครในพวกเธอคนไหนอยากจะรับมันแน่นอน”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ สีหน้าของหลานอิ๋นไห่ก็พลันเคร่งขรึมขึ้น นักเรียนทุกคนต่างแสดงสีหน้าอยากรู้อยากเห็น
“บทลงโทษของการเสียชีวิตคือ ค่าสถานะทั้งหมดลดลงครึ่งหนึ่ง!”
ป.ล. :
นิยายภาคแยกของผู้แต่งถังเจียซานเส่าและเป็นเรื่องสุดท้ายของทวีปโต้วหลัว จะเชื่อมโยงไปยังจักรวาล ShenLan Qiyu
0 comments:
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น