ตอนที่11 หลิงอวี่โม่ที่ธรรมดา |
. จางกงเว่ยยิ้มและพูดว่า "ฉันเลือกคุณเป็นนักเรียนคัดเลือกพิเศษคนแรก จากนี้ไปคุณเป็นนักเรียนของแผนกแสงศักดิ์สิทธิ์ของฉัน" . "เดี๋ยวก่อน นี่มันสถานการณ์ไหน? ตอนนี้ฉันควรจะต้องกลับบ้านแล้วนี่" เด็กนักเรียนมองชายตรงหน้าของเขาด้วยท่าทางตกใจ " คุณลุง นี่มันการคัดเลือกพิเศษอะไร คุณเข้าใจอะไรผิดไปหรือป่าว? แล้วฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง? " . จางกงเว่ยส่ายหัวและพูดว่า : "ไม่ผิด คุณคือเป้าหมายในการคัดเลือกพิเศษของฉัน" . คุณพึ่งทำการประเมินของโรงเรียนเชร็คใช่ไหม ? และตอนนี้คุณก็ได้รับคัดเลือกเป็นพิเศษจากแผนกแสงศักดิ์สิทธิ์ของโรงเรียนเชร็คแล้ว ฉันชื่อจางกงเว่ย เป็นคณบดีของแผนกแสงศักดิ์สิทธิ์ จากนี้ไปฉันคืออาจารย์ของคุณและนั่นคือทั้งหมดที่คุณต้องรู้ . เด็กนักเรียนคนนี้ฟังที่เขาพูด ทันใดนั้นดวงตาเขาก็เบิกกว้าง : "เป็นไปได้อย่างไร เป็นไปได้อย่างไร ฉันตกรอบแรก ฉันตกรอบแรกไปแล้ว ฉันเป็นคนแรกที่ยุติการประเมิน ฉันไม่ได้ทำอะไรเลย ฉันขี้เกียจมาก ฉันแค่ต้องการเติบโตและไปรับมรดกนับร้อยล้านจากพ่อของฉัน ครูครับ คุณเข้าใจผิดแล้ว คุณไม่น่าจะชอบลูกศิษย์อย่างผมแน่นอน" . ทันทีที่คำกล่าวนี้ออกมา ผู้คนก็เกิดความโกลาหลขึ้นทันที คนที่ตกรอบแรก แต่ได้รับการคัดเลือก? . นักเรียนบางคนจำการประเมินรอบก่อนนี้ได้ เมื่อเสียงกู่ฉินของหลันเมิ่งฉินเล่นไปได้ไม่นาน ก็มีเด็กคนหนึ่งกลอกตาและล้มลงกับพื้น จากนั้นเขาก็ถูกพาตัวออกไป ถูกต้องมันคือเขา . จางกงเว่ยหัวเราะและพูดว่า : "นั่นมันไม่สำคัญ สิ่งที่สำคัญคือคุณถูกฉันเลือก" . เด็กนักเรียนคนนี้พูดอย่างร้อนรนว่า "ครูอย่านะ อย่าเลือกฉันเลย ฉันไม่รู้ ฉันไม่รู้อะไรเลย ฉันมาที่นี่ และเข้าร่วมการประเมิน ก็เพราะครอบครัวของฉันบังคับ ใช่.. พวกคุณ.. พวกคุณถูกพวกเขาซื้อตัวไปหรือป่าว อย่างไรก็ตามโรงเรียนเชร็คได้ขึ้นชื่อว่ายุติธรรมเสมอ หากมีการซื้อตัว คุณจะรักษาความยุติธรรมของโรงเรียนเชร็คได้อย่างไร ดังนั้นคุณจะรับฉันไม่ได้" . ในระยะไกล อีจื่อเฉินที่กำลำลังเฝ้าดู อดไม่ได้ที่จะแสดงความตกตะลึง แม้ว่าเขาจะจินตนาการแล้วว่ามันจะพิเศษมากแค่ไหน ที่ราชันเทพลงมารับศิษย์ แต่เขาไม่เคยคาดหวังว่าราชันเทพแห่งแสงคนนี้จะพิเศษมากขนาดนี้ เพราะเขามองดูนักเรียนคนนี้ แม้ว่าเขาจะไม่ใช่ราชันเทพ แต่จากที่มองด้วยสายตา ก็จะเห็นได้ชัดว่าเด็กคนนี้ ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นเลย เป็นแค่เด็กธรรมดาทั่วไปคนหนึ่งเท่านั้น . จางกงเว่ยยิ้มเล็กน้อยและกล่าวว่า : "ใครที่คิดว่ามันไม่ยุติธรรม ก็ไปถามที่ศาลาเทพสมุทรได้ อย่างไรก็ตาม เป้าหมายคนแรกของฉันก็คือคุณ" . หลันเมิ่งฉินก็ตกตะลึงเล็กน้อยเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักเรียนที่ถูกคัดออกไปแล้ว นี่มันจะเป็นการทำลายชื่อเสียงของโรงเรียนเชร็คหรือไม่! เธอรีบตั้งสติและพูดว่า "เด็กนักเรียน คุณชื่ออะไร" . ตอนนี้เด็กนักเรียนคนนี้ก็ยังมีใบหน้ามึนงงแต่ก็ตอบว่า : "ฉันชื่อ หลิงอวี่โม่" . เอาล่ะ เด็กนักเรียนหลิงอวี่โม่ คุณต้องการเป็นส่วนหนึ่งของแผนกแสงศักดิ์สิทธิ์หรือไม่? หลันเมิ่งฉินถามด้วยสีหน้าแปลกๆ . "ฉัน... หลิงอวี่โม่ " เขาตะโกนออกมาและต้องการจะปฏิเสธ แต่ในวินาทีต่อมา สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างมาก และคำพูดของเขาก็เปลี่ยนไป "ขอบคุณ ฉันเต็มใจ ฉันรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เข้าร่วมในแผนกแสงศักดิ์สิทธิ์" ตอนที่เขาพูดประโยคสุดท้าย น้ำตาเขาก็ไหลออกมา . เขาเต็มใจหรอ? ในขณะที่เขากำลังจะปฏิเสธ จู่ๆเกิดภาพลวงตาในใจของเขา ภาพที่เขาเห็นก็คือ หากเขาปฏิเสธเขาจะถูกฟ้าผ่าจนตาย เขาเห็นครอบครัวของเขาพังทลายลง สมาชิกในครอบครัวถูกฟ้าผ่ากลายเป็นขี้เถ้า เสียงคล้ายปีศาจดังก้องอยู่ในหูของเขา เสียงนั้นพูดกับเขาเพียงไม่กี่คำ แต่เหมือนว่าเขากำลังจะตายจริงๆ . เดิมทีเขาเป็นคนขี้สงสาร ไม่ถือตัว เขาแค่อยากเป็นทายาทรุ่นที่สอง แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะทำมันได้ มันไม่ง่ายเลยที่ผู้เป็นถึงคณบดี จะรับเขาเข้าไป ดังนั้นแม้ในใจเขาจะเต็มไปด้วยความไม่เต็มใจ แต่เขาก็ไม่สามารถที่จะต่อต้านได้ . จางกงเว่ยยิ้มและพูดว่า "การรับสมัครของฉันครั้งนี้สำเร็จหรือไม่?" . หลันเมิ่งฉินตั้งสติและพูดว่า "คุณประสบความสำเร็จในการรับสมัครรอบแรก" จางกงเว่ยพยักหน้าด้วยอาการพึงพอใจ เขาจับมือของหลิงอวี่โม่ เดินออกไป มีเพียงประกายแห่งความเจ้าเล่ห์ในดวงตาของเขา และดูเหมือนเขากำลังมีความสุขมาก . นี่เป็นการคัดเลือกพิเศษของโรงเรียนเชร็คจริงๆหรือ? เหล่านักเรียนที่ก่อนหน้านี้เคยตื่นเต้น บัดนี้พวกเขามีอาการแข็งทื่อกันไปหมด ถ้าเป็นแบบนี้ แล้วความพยายามของพวกเขาล่ะ เพื่ออะไร? . "ต่อไปฉันขอเชิญคณบดีแผนกชีวิตและความตาย คุณอาไต ขึ้นมาทำการคัดเลือกแบบพิเศษ" หลันเมิ่งฉินกล่าว . ถ้าเธอไม่ได้รับจดหมายจากผู้บริหารระดับสูงมาก่อน เธอแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าโรงเรียนจะทำการคัดเลือกแบบพิเศษด้วยวิธีนี้ เธออยากจะหยุดมันเสียจริง แต่ผู้บริหารระดับสูงบอกเธอว่ามันเป็นเรื่องปกติ ให้ทำตามคำแนะนำของหัวหน้าจางกง . ในเวลานี้ชายหนุ่มที่ดูธรรมดาค่อยๆเดินออกมา เขาดูเด็กกว่าหัวหน้าจางกงเล็กน้อย ใบหน้าเขาซีดและไม่แสดงอารมณ์ใดๆ และยังเต็มไปด้วยความรู้สึกมัวหม่น . ในกลุ่มของคณะครูของโรงเรียนเชร็ค ในขณะนี้มีครูหนุ่มร่างสูงมองเขาด้วยสีหน้าไม่พอใจ และกล่าวอย่างไม่เต็มใจ "ไอเวรนี่ เขาจู่โจมฉันกระทันหัน ทำให้ฉันเสียท่าโดยไม่ทันได้ระวัง ไม่อย่างนั้นการคัดพิเศษรอบสองนี้จะเป็นเขาไปได้ยังไง ห๊ะ" . โจวเหว่ยชิงยืนอยู่ข้างชายหนุ่มคนนี้ เขายิ้มและพูดด้วยเสียงต่ำว่า "แต่เท่าที่ฉันเห็น คุณขาอ่อนและล้มลงไป" . "คุณพูดแบบนี้ ถึงแม้ฉันจะแพ้เขา แต่คุณคิดว่าฉันจะเอาชนะคุณไม่ได้หรือ?" ชายหนุ่มร่างสูงมองโจวเหว่ยชิงด้วยอาการโมโหอย่างหนัก . "ฉันยอมแพ้ ฉันรู้ว่าฉันเอาชนะคุณไม่ได้" โจวเหว่ยชิงพูดด้วยรอยยิ้ม . "ฉันไม่อยากจะสนใจคุณ คุณคิดว่าเขาจะเลือกใคร? หรือเขาจะทำแบบหัวหน้าจางกงหรือป่าว ทำให้คนธรรมดากลายเป็นอัจฉริยะ ทำให้คนเกียจคร้านมีแรงจูงใจในการฝึกฝน?" ชายหนุ่มรูปร่างสูงพูดด้วยท่าทางฉุนเฉียว . โจวเหว่ยชิงยักไหล่และพูดว่า "ฉันจะไปรู้ได้อย่างไร แต่ไม่ว่ายังไง ฉันก็คงไม่เลือกแบบนั้น ความคิดของหัวหน้าจางกงนั้นแตกต่างกับของพวกเราอย่างแน่นอน" . ครั้งสุดท้ายที่ภรรยาฉันไปทานข้าวกับพี่สะใภ้ เหมือนจะได้ยินพี่สะใภ้เล่าว่า สมัยเด็กพี่จางกงเป็นคนขี้เกียจ เขาเลือกระบบแสงเพียงเพราะว่าระบบแสงมันง่าย และเขาไม่ต้องการที่จะใช้เวลาในการฝึกฝนมากเกินไป ดังนั้นเขาจึงเลือกระบบแสง แต่เขาไม่คิด ว่ามันจะอยู่เหนือความคาดหมายของเขาในภายหลัง ฉันเดาว่าหลิงอวี่โม่ก็อาจจะเป็นเหมือนเขาในตอนเด็ก . ในเวลานี้อาไตได้เดินมาอยู่ต่อหน้านักเรียนแล้ว และเขาได้เริ่มกวาดสายตามองไปทางนักเรียน รอบๆตัวเขา . ขณะนั้นเอง จู่ๆก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น "ข้า ข้า ข้า ครูอาไต เลือกข้าเถอะ" . ทันใดนั้นร่างหนึ่งก็เดินออกมาจากฝูงชน และมาอยู่ต่อหน้าอาไต หัวหน้าหน้าแผนกชีวิตและความตาย นี่ไม่ใช่ใครอื่น นอกเสียจาก ไต้อิ๋ง . ในระยะไกลฮั่วอวี่เฮ่าที่กำลังเฝ้าดู อดไม่ได้ที่จะเอามือปิดหน้า "เด็กผู้หญิงคนนี้ จริงๆเลย" . เมื่อเห็นเธอเดินออกมา อาไตก็ตกใจเล็กน้อย "คุณสมบัติสายเลือดของคุณไม่เหมาะกับฉัน" . "ไม่ ไม่ ไม่ ครูอาไต ฉันคิดว่าฉันเหมาะสมที่สุดกับสายเลือดของคุณ" ไต้อิ๋งตอบกลับในทันที . อาไตมองเขาด้วยความประหลาดใจและพูดว่า "ทำไมคุณถึงคิดว่าคุณเหมาะสม จิตวิญญาณของคุณมีคุณสมบัติของแสงสว่าง ถ้าพูดอย่างตรงไปตรงมา จางกงเว่ยแผนกแสงศักดิ์สิทธิ์น่าจะเหมาะสมกับคุณมากกว่า" . ไต้อิ๋งทำหน้าบึ้งตึงและพูดว่า "ฉันคิดว่า คุณสร้างแผนกชีวิตและความตายมา ก็เพื่อสำรวจความลับระหว่างความเป็นและความตาย มันมีความน่าสะพรึงกลัวอย่างมากระหว่างความเป็นและความตาย และมันก็เป็นจุดเชื่อมต่อของการสร้างและการทำลายล้างเช่นกัน" ฉันจึงต้องการเรียนรู้จากคุณและสำรวจความลับระหว่างความเป็นและความตาย ฉันคิดว่าแผนกชีวิตและความตายนั้นสุดยอดมากๆ . อาไตอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาในทันที เป็นรอยยิ้มที่อ่อนโยนที่หาได้ยากจากใบหน้าที่เย็นชาของเขา : "คุณเป็นลูกสาวของอวี่เฮ่าใช่ไหม?" . ไต้อิ๋งเม้มปากและตอบว่า : "มันไม่เกี่ยวว่าฉันจะเป็นลูกสาวใคร ฉันแค่ชอบครูแบบคุณ คุณแค่ยอมรับฉัน และฉันสัญญาว่าจะตั้งใจเรียน ถ้าฉันยังไม่เป็นที่พอใจของคุณ คุณค่อยไล่ฉันออกทีหลังก็ได้" . ฉันจะตั้งใจฝึกฝน คุณปู่อาไต คุณแค่ยอมรับฉัน ตกลงไหม? . ใช่แล้ว.. จากมุมมองนี้ ในแง่ของความอาวุโส 'อาไต' เทพแห่งความตาย และ 'ถังซาน' เทพแห่งท้องทะเล อยู่ในรุ่นเดียวกัน.. ----------------------------------------------------------------------------------------- |
0 comments:
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น