ตอนที่9 เส้นทางสีทอง |
. ขณะที่พุ่งไปข้างหน้า จู่ๆอีเฉินก็หันกลับมาอย่างกระทันหัน เขาหันหน้าเข้าหาแสงสีทองรูปตัววี และค่อยๆชกใส่ลำแสงนั้น . หมัดของเขาเปล่งประกายราวกับอเมทิสต์ และเมื่อมันกระทบกับแสงสีทอง ลำแสงสีทองรูปตัววีนั้น ก็แตกเป็นเสี่ยงๆในทันที แม้จะยังมีเศษเสี้ยวสีทองติดอยู่ที่มือของเขา แต่มันก็สลาย หายไปในชั่วพริบตา . ไต้อิ๋งอดไม่ได้ที่จะตกตะลึง " นี่มันความสามารถอะไรกัน ? . แม้ว่าเธอจะเคยเห็นอีเฉินมาก่อน แต่ก็ไม่ได้คุ้นเคยกับเขา เป็นเพราะวิถีชีวิตที่ต่างกัน . แต่เธอค่อนข้างมั่นใจในทักษะจิตวิญญาณของเธอ ไม่ว่าจะเป็น เทพผีเสื้อตัดสะบั้น! หรือ การปะทะของเทพธิดาแห่งแสง! ทั้งหมดล้วนเป็นทักษะที่ทรงพลัง แต่ในเวลานี้อี้เฉินสามารถทำลายมันได้อย่างง่ายดาย ดูเหมือนพลังงานทั้งหมดที่โจมตีไป จะสลายไปทันทีเมื่อมันไปถึงตัวของเขา . แต่เธอจะยอมแพ้แค่นี้ได้อย่างไร บนหน้าผากของเธอ แสงสีทองค่อยๆส่องสว่างขึ้นอย่างช้าๆ จากนั้นนัยน์ตาแนวตั้งสีทองก็ได้เปิดขึ้น และร่างเธอก็ถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีทองที่เจิดจรัสในทันที . "สุดยอด! " เมื่อเห็นฉากนี้ อีจื่อเฉินที่อยู่บนฝั่ง อดไม่ได้ที่จะหันไปมองฮั่วอวี่เฮ่า . ฮั่วอวี่เฮ่ายิ้มและพูดอย่างว่า "แม่ของเธอมอบสิ่งนี้ให้เธอ และนี่ถือว่าเป็นอนุสรณ์ของพวกเราในสมัยก่อน" . ทันใดนั้นแถบสีทองก็แผ่ออกมาจากใต้เท้าของไต้อิ๋ง แถบแสงสีทองนี้แผ่ขยายไปทั่วบนผิวของทะเลสาบเทพสมุทร ราวกับว่าเป็นถนนที่ปูอยู่บนทะเลสาบเทพสมุทร . หากสังเกตุดีๆจะพบว่าที่ด้านล่างของเส้นทางสีทองนี้ ระดับน้ำจากทะเลสาบถูกระบายออกไป โดยไม่ได้ติดอยู่กับถนนสีทอง . สีหน้าของอีเฉินเปลี่ยนไปมาก และวงแหวนวิญญาณวงที่สามก็สว่างขึ้นทันที ปลายเท้าของเขาแตะอยู่บนพื้นผิวทะเลสาบ และร่างของเขาโน้มไปด้านหลัง . "ตูม" ดูเหมือนว่าเขาได้เปิดช่องมิติขึ้น ช่องว่างสีดำปรากฏขึ้นทันที ร่างกายของอีเฉินหลอมรวมกับช่องมิติ และช่องว่างนั้นก็ระเบิดออกและมีแรงดึงดูดที่ทรงพลัง . แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะเผชิญกับสิ่งนี้ แต่เมื่อเส้นทางสีทองที่ขยายออกมา เมื่อมันสัมผัสกับหลุมดำ ก็กลายเป็นสีทองแทบจะทันที . Withering in the brilliance, Golden road! . สิ้นเสียง ภายใต้บริเวณที่ถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีทอง ร่างของไต้อิงก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง สีสีทองบนตัวเธอค่อยๆจางหายไป ปีกข้างหลังเธอก็กระพือและเคลื่อนที่ตรงไปยังต้นไม้เทพเจ้า . ด้านหลังเธอมีร่างสีทองหยุดนิ่งอยู่กลางอากาศ ภายใต้สีทอง ก็มีแสงสีม่วงส่องประกายระยิบระยับ ราวกับว่ามันกำลังดิ้นรนเพื่อเป็นอิสระ . เงาหลายร่างได้เคลื่อนผ่านเขาไป และหลังจากนั้นไม่กี่วินาที แสงสีทองก็ค่อยๆจางหายไป เผยให้เห็นร่างสีม่วงอยู่ข้างใน . อีเฉินตอนนี้ดูมีอาการเขินอายเล็กน้อย เสื้อผ้าของเขาเสียหายหลายที่ เผยให้เห็นเนื้อผิวด้านใน แม้แต่ลมหายใจก็เล็ดลอดออกไปอย่างมาก รัศมีสีม่วงที่ร่างเขาก็จางลงไปอย่างมาก ที่สำคัญในตอนนี้คือเขาเป็นคนสุดท้าย . ในเวลานี้ไต้อิ๋งได้ข้ามต้นไม้เทพเจ้าไปแล้ว และกำลังวนไปด้านข้างเพื่อกลับเข้าฝั่ง . ฉันแพ้.. อีเฉินรู้ว่าเขาได้พ่ายแพ้ . ถ้าไต้อิ๋งเป็นศัตรู หลังจากที่ควบคุมเขาด้วยเส้นทางสีทอง เธอก็ยังสามารถโจมตีเขาต่อได้ และเขาต้องตายเป็นแน่ . การควบคุมของเส้นทางสีทองนั้น สามารถหยุดพลังของเขาได้อย่างสมบูรณ์ หลุมดำอันทรงพลังที่เขาสร้างขึ้น ใช้พลังไปมากกว่า70% ของพลังเขา ก็ยังไม่สามารถต้านทานได้ . อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเขาจะแพ้ แต่ดูเหมือนเขามีความเข้าใจบางอย่างเกิดขึ้นในใจของเขา . ด้านล่างเขาคือทะเลสาบเทพสมุทร ที่เต็มไปด้วยพลังแห่งชีวิต และพลังที่เขาได้สัมผัสเมื่อสักครู่เต็มไปด้วยรัศมีแห่งการกัดกร่อนและทำลายล้าง มันให้ความรู้สึกแปลกๆ ราวกับว่าเขาจับจุดอะไรบางอย่างได้ แต่ในเวลานี้มันไม่ใช่เวลาที่เขาจะมัวคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาต้องรีบทำการประเมินให้เสร็จก่อน . อีเฉินสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทันใดนั้นแสงสีม่วงที่จางๆก็กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง พริบตาเดียว พลังแห่งการทำลายล้างก็ได้ปะทุขึ้นอีกครั้ง และเขาก็เริ่มก้าวไปบนผิวน้ำ มุ่งไปยังต้นไม้เทพเจ้า . ด้วยเสียงคำรามของเขา ปรากฏเสาน้ำขนาดใหญ่ขึ้นกลางทะเลสาบเทพสมุทร เสาน้ำนี้เต็มไปด้วยลมหายใจแห่งชีวิตที่มั่งคั่ง แค่ครู่เดียวเสาน้ำนี้ก็แตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ และลมหายใจแห่งชีวิตเหล่านี้ก็รวมเข้ากับแสงสีม่วงของเขา . ภายใต้แรงผลักดันของรัศมีสีม่วง ความเร็วของอีเฉินก็เพิ่มขึ้นไปอยู่ระดับสูงสุดอีกครั้ง และเขาก็รีบเร่งตามกลุ่มนักเรียนไป . ในตอนนี้เขารั้งท้ายแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไปทางอ้อม เขาทำได้แค่ตรงไปข้างหน้า และพยายามแซงนักเรียนกลุ่มข้างหน้าด้วยเวลาอันสั้นเท่านั้น . ไต้อิ๋งเป็นผู้นำในขณะนี้ เธอข้ามต้นไม้เทพเจ้าไปแล้ว และตอนนี้ก็กำลังวนกลับขึ้นฝั่ง . เมื่อเธอและอีเฉินสวนทางกัน เธอมองไปทางอีเฉินด้วยท่าทางของผู้ชนะ . ขณะที่อีเฉินก็ระแวงเธอ จู่ๆไต้อิ๋งก็กระพือปีกของเธอไปทางอีเฉินทันที . อีเฉินตกใจ แต่ในไม่ช้าเขาก็พบว่าพลังที่ไต้อิ๋งใช้นั้น ไม่ใช่การโจมตี แต่เป็นการเสริมพลัง . ใช่ มันคือการเสริมพลัง เมื่อเธอกระพือปีก มันเต็มไปด้วยลมหายใจที่บริสุทธิ์ เมื่อมันสัมผัสกับร่างของเขา ทันใดนั้นมันก็ระเบิดพลัง ที่สามารถผลักดันให้เขาเร่งความเร็วได้อีกครั้ง ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นมากกว่า50% และเขาก็ไล่ตามใกล้จะทันกับนักเรียนกลุ่มข้างหน้าแล้ว . ....... . ในเวลานี้อีเฉินเต็มไปด้วยความประหลาดใจ เด็กผู้หญิงที่หยิ่งทะนงและดูน่ากลัวในสายตาเขา กำลังช่วยเขาจริงๆหรือ? . สำหรับผู้หญิงที่หยิ่งผยองเช่นไต้อิ๋ง เขาพยายามออกห่างและหลีกเลี่ยงเพราะหวาดกลัวเธอ และไม่เคยคิดไปยุ่งเกี่ยวกับเธอในอนาคต แต่พอไต้อิ๋งมองเขาด้วยท่าทีของผู้ชนะ แต่ก็ยังช่วยเหลือเขา การกระทำนี้มันส่งผลกระทบต่อหัวใจของอีเฉิน ความรู้สึกแย่ๆที่มีต่อไต้อิ๋งก็หายไปแทบจะทันที . ระหว่างชายหญิง การชอบหรือไม่ชอบมักอยู่แค่ความคิดชั่วขณะหนึ่ง นี่คือความคิดที่บริสุทธิ์ในทางบวก และความคิดที่ดำมืดในทางลบ สิ่งที่อีเฉินคิดในตอนนี้มันคือความคิดที่บริสุทธิ์ . ก่อนหน้านี้ เขามั่นใจว่าความเร็วในการปะทุพลังของเขานั้นเร็วมากอยู่แล้ว แต่เนื่องจากใช้พลังงานมากเกินไปก่อนหน้านี้ ถึงแม้เขาจะมั่นใจว่าตามนักเรียนกลุ่มหน้าได้ทัน แต่เขาไม่มั่นใจว่ามันจะเพียงพอจนผ่านการประเมินหรือไม่ เรื่องนี้เขาเองก็ไม่มั่นใจจริงๆ . แต่เมื่อเขาได้รับการช่วยเหลือจากไต้อิ๋ง ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป การสนับสนุนที่ไต้อิ๋งเสริมให้เขานั้น เท่ากับการช่วยให้เขามีพลังวิญญาณเหลือล้น นอกจากนี้เขายังมีเวลาในการปรับสภาพตนเองและความแข็งแกร่งของพลังวิญญาณที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายให้มีเสถียรภาพมากขึ้น . เมื่อเขาเห็นว่านักเรียนกลุ่มหน้าเข้าใกล้ต้นไม้เทพเจ้าแล้ว ดวงตาของอีเฉินก็ดูจริงจังขึ้นมาทันที . เขาพุ่งตรงไปที่ต้นไม้เทพเจ้า และนักเรียนที่อยู่ข้างหน้าเขาก็รับรู้ถึงการมาของเขา จากความสามารถที่เขาระเบิดออกมา ขณะที่สู้กับไต้อิ๋งนั้นน่ากลัวเกินไป ทำให้ไม่มีใครพยายามที่จะหยุดเขา . เมื่ออีเฉินมาถึงต้นไม้เทพเจ้า เขาก็กดมือของเขาเบาๆบนพื้นผิวต้นไม้เทพเจ้า และหมุนรอบอย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้กระทบต่อโมเมนตัมของตัวเอง . หลังจากวนรอบต้นไม้เทพเจ้าสำเร็จ ในขณะเดียวกันนั้น นักเรียนหลายสิบคนในกลุ่มเดียวกันก็กำลังมุ่งหน้ากลับถึงฝั่งแล้ว . อีเฉินสูดหายใจเข้าลึกๆ ร่างของเขาหยุดนิ่งชั่วขณะหนึ่ง เท้าของเขายันลงไปที่ต้นไม้เทพเจ้าอย่างแรง เพียงครู่เดียวก็พุ่งออกมาราวกับหัวลูกศรที่พุ่งออกมาจากสายธนู ในเวลานี้เขาได้ถ่ายเทพลังวิญญาณทั้งหมดลงบนขาของเขา ส่วนร่างกายเขาก็เป็นดั้งหัวลูกศรสีม่วงที่กำลังบินตรงไปชายฝั่ง . ไต้อิ๋งไปถึงชายฝั่งคนแรกตามคาด และจบการประเมินด้วยคะแนนที่ดีที่สุด ส่วนอีเฉินกลับมาถึงฝั่งเป็นลำดับที่สามสิบแปด ----------------------------------------------------------------------------------------- |
0 comments:
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น