🏫Douluo Dalu 4.5 : บทที่25 จุดเชื่อมฟ้าดิน

📚 Douluo Dalu 4.5 (Side Story) : Shrek Heavenly Mission

บทที่25 : จุดเชื่อมฟ้าดิน

มีความรู้สึกอุดตันในเส้นลมปราณอย่างชัดเจน แต่เธอได้รับพรแล้ว เธอจึงชี้นำพลังทั้งสองเคลื่อนไปข้างหน้า ตามเส้นลมปราณทั้งสอง

ความเจ็บปวดที่รุนแรงเริ่มปรากฏขึ้น เส้นลมปราณทั้งสองดูเหมือนจะอุดตันและเปราะบาง ทำให้เธอไม่สามารถเร่งความเร็วได้ เธอทำได้เพียงกระตุ้นพลังของเธอให้เคลื่อนไปข้างหน้าทีละเล็กทีละน้อยเท่านั้น

พลังที่แข็งแกร่งในร่างไต้อิ๋งเริ่มส่งผลกระทบต่อเธอ และได้เริ่มซ่อมแซมเส้นลมปราณทั้งสองของเธออย่างต่อเนื่อง ทำให้มีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามความเจ็บปวดก็เริ่มทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ มากจนทำให้ร่างกายเธอมีอาการกระตุกเล็กน้อย

แต่เธอก็อดทนอดกลั้นเอาไว้ แม้เธอจะยังไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าการเชื่อมต่อฟ้าดินหมายความว่าอะไร แต่เธอรู้ว่านี่เป็นวิธีการผสานพลังทั้งสองเข้าด้วยกันอย่างแท้จริง และนี่คือสิ่งที่เธอปราถนา

เธอฝึกฝนมาอย่างยาวนาน และในที่สุดเธอก็พบเส้นทางที่ชัดเจน เป็นไปไม่ได้เลยที่เธอจะยอมแพ้

เธอเป็นถึงธิดาของราชันเทพ และปู่ของเธอก็เป็นถึงราชาแห่งราชันเทพ ในหัวใจของเธอเต็มเปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิใจ เมื่อเธอยังเด็กแม่ของเธอยังเคยเล่าให้ฟังถึงเรื่องราวของปู่และย่าของเธอ รวมถึงพ่อแม่ น้าอา หรือแม้แต่ลูกพี่ลูกน้องของเธอ

ดังนั้น ตั้งแต่เด็ก เธอจึงบอกกับตัวเองว่าในอนาคต เธอจะต้องกลายเป็นคนที่เข้มแข็งไม่ด้อยไปกว่าพวกเขา และเธอจะต้องกลายเป็นราชันแห่งเทพเจ้าด้วยเหมือนกัน

ดังนั้นพลังใจของเธอจึงแข็งแกร่งกว่าคนทั่วไปมาก ยิ่งไปกว่านั้นเธออาศัยอยู่ที่อาณาจักรเทพตั้งแต่เด็ก ภายใต้การหล่อเลี้ยงของวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ รากฐานของเธอจึงลึกล้ำและมั่นคงมาก

ความเจ็บปวดที่รุนแรงไม่สามารถสั่นคลอนจิตใจของเธอได้แม้แต่น้อย เธอค่อยๆทะลวงเส้นลมปราณทั้งสองทีละน้อย

เธอรับรู้ได้ด้วยตัวเองว่าเส้นลมปราณทั้งสองจะต้องถูกทะลวงพร้อมกัน เพื่อให้พลังทั้งสองผสานกัน ซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุด

มีร่างหนึ่งปรากฏขึ้นอย่างเงียบๆที่ริมฝั่งทะเลสาบเทพสมุทร เวลานี้ฮั่วอวี่เฮ่ายืนอยู่ข้างๆอาไตแล้ว

อาไตชำเรืองมองเขา : "คุณกังวล?"

ฮั่วอวี่เฮ่า ยิ้มอย่างขมขื่น: "นี่คือลูกของฉัน ถึงฉันกังวลและห้ามเธอแต่เธอก็คงจะไม่ยอมแพ้"

อาไตกล่าวว่า "จิตตานุภาพของเด็กคนนี้แข็งแกร่งกว่าที่ฉันคิดไว้มาก ถูกต้องแล้วที่คุณปล่อยให้เธอจากคุณไป เพราะการที่เธออยู่ไกลจากคุณ เธอจึงสามารถพัฒนาความเข้มแข็งในใจของเธอได้อย่างแท้จริง อนาคตของเธอไร้ขอบเขต และความพยายาม ความมุ่งมั่นของเธอนั้น มากเกินกว่าเด็กในวัยเดียวกัน กับที่ฉันเคยได้พบเจอมา"

"ก็เหมือนกับฉัน" ฮั่วอวี่เฮ่าพูดอย่างภาคภูมิใจ

อาไตขมวดคิ้ว "ทำไมคุณไม่บอกว่าเธอเหมือนพ่อตาคุณล่ะหรือเพราะเขาไม่อยู่"

"ถูกๆเหมือนเขาเหมือนกัน ฉันก็ไม่รู้ว่าพ่อตาของฉันพบเจอแม่ยายของฉันหรือยัง" ดวงตาของอวี่เฮ่าดูหม่นหมองลงเล็กน้อย

อาไตพยักหน้าและกล่าวว่า "เขาต้องพบแน่นอน ความรักเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่และลึกลับที่สุดจริงๆ เมื่อความรักของคุณมั่นคง แม้แต่กฏจักรวาลก็ไม่อาจแทรกแซงได้ ฉันเชื่อว่าเขาจะค้นหากันจนเจอ"

"ฉันเองก็คิดเช่นนั้น พ่อตาของฉันสร้างปาฏิหาริย์มามากมาย และความสัมพันธ์ระหว่างเขาทั้งสองคนก็ลึกซึ้งจนไม่อาจแยกกันได้ ฉันได้แต่ตั้งตารอวันที่เขาจะกลับมา พวกเราทั้งหมดคิดถึงเขาจริงๆ"

อาไตกล่าวว่า : "เขาต้องกลับมาแน่นอน ยังมีเรื่องอีกมากรอให้เขากลับมาแก้ไข เทพมังกรได้บอกวิธีพัฒนาอาณาจักรไปสู่ดาวเทพเจ้าแล้ว แต่จะพัฒนาหรือไม่ และจะพัฒนาอย่างไร ยังต้องรอให้เขากลับมาตัดสินใจ เมื่อเขาไม่อยู่เราก็ไม่กล้าที่จะดำเนินการใดๆ

แล้วคุณต้องการที่จะให้เธอเรียนรู้และสืบทอดความสามารถสายเลือดของฉันจริงๆหรือ?

เมื่อมองมาที่ดวงตาที่จริงจังของอาไต ฮั่วอวี่เฮ่าก็ยิ้มและพูดว่า :"แน่นอนฉันยินดี ฉันอนุญาติ เพราะนี่มันเป็นทางเลือกของเธอเอง" เมื่อเธอยืนหยัดในสิ่งที่เธอตั้งใจ เธอก็มีสิทธิ์ที่จะเลือก รบกวนคุณแล้ว

เขาพูดจบก็โค้งคำนับให้อาไตเล็กน้อยด้วยความขอบคุณ

อาไตส่ายหัวและพูดว่า "ไม่เป็นไร นี่เป็นศิษย์ของฉัน เมื่อเธอผ่านการทดสอบนี้ หลังจากนั้นฉันจะเริ่มสอนเธออย่างเป็นทางการ"

" ดี! "

ในขณะที่พวกเขากำลังคุยกัน ร่างกายของไต้อิ๋งก็ได้เกิดอาการสั่นขึ้นอีกครั้ง หน้าผากของเธอเต็มไปด้วยเหงื่อ เห็นได้ชัดว่าเธอกำลังทนต่อความทุกข์ทรมานเป็นอย่างมาก

การเชื่อมต่อเส้นลมปราณทั้งสองนั้นไม่ง่ายเลยจริงๆ แต่เวลานี้ราชันเทพทั้งสองก็คอยปกป้องเธออยู่ข้างๆ แต่พวกเขาก็ไม่ได้ช่วยเหลืออะไรเธอ เพราะมีบางอย่าง ที่ต้องสัมผัสด้วยตัวเองเท่านั้น ถึงจะสัมผัสได้ถึงความลึกลับอย่างแท้จริง

เวลาค่อยๆผ่านไปทุกวินาที แม้แต่ฮั่วอวี่เฮ่าเองก็อดไม่ได้ที่จะชื่อชมในความมุ่งมั่นและพยายามของลูกสาวของเขา

แม้ไต้อิ๋งจะต้องทนทุกข์ทรมานอย่างหนักแต่เธอก็มุ่งมั่นที่จะก้าวต่อไปข้างหน้าเสมอ ผืนน้ำทะเลสาบเทพสมุทรบริเวณรอบๆเธอ กลายเป็นวังน้ำวนภายใต้การโคจรพลังของเธอ และพลังชีวิตที่มั่งคั่งพลั่งพรูก็ไหลเข้าสู่ร่างกายของเธออย่างต่อเนื่อง

รอบๆตัวเธอมีวิญญาณแห่งชีวิตปรากฏขึ้น แก่นแท้ของชีวิตที่เกิดในต้นไม้เทพเจ้าคือพลังชีวิตที่บริสุทธิ์และยิ่งใหญ่ที่สุด

นี่คือต้นไม้เทพเจ้า ต้นไม้เทพเจ้าแต่เดิมคือมารดาของราชันเทพสมุทรถังซาน ด้วยการวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่องพลังชีวิตจึงแข็งแกร่งขึ้นเป็นอย่างมาก มากพอที่จะทำให้ทั้งกาแล็กซี่ต้องตกตะลึง เป็นแกนพลังชีวิตที่ทรงพลังที่สุดในกาแล็กซี่

ในแง่ของความอาวุโส อาอิ๋นเป็นย่าทวดของไต้อิ๋ง ทั้งสองคนมีความสัมพันธ์กันทางสายเลือด ดังนั้นเธอจะดูแลลูกหลานของเธอเองโดยธรรมชาติ

เป็นเวลาเจ็ดวันผิวของไต้อิ๋งเปลี่ยนจากสีแดงก่ำเป็นสีซีด และกลับมาเป็นสีแดงก่ำอีกครั้ง

ตอนนี้อาไตและฮั่วอวี่เฮ่ามาอยู่ข้างเธอเกือบจะพร้อมกัน และพร้อมที่จะช่วยเหลือทุกเมื่อ

แต่วินาทีต่อมา เสียงแผ่วเบาก็ดังขึ้นจากไต้อิ๋ง และมีกระแสลมกระเพื่อมออกจากร่างกายของเธอ ทำให้น้ำในทะเลสาบรอบๆ กระเพื่อมออกมาด้านนอก

ร่างของเธอสั่นสะท้านทันที ปากของเธอค่อยๆอ้าเป่ากระแสลมที่ผสมด้วยอากาศสีฟ้าขาวออกมา ในขณะเดียวกันก็มีเสียงคำรามดังออกมา

เสียงคำรามที่ชัดเจนนี้ยาวและดูผ่อนคลาย ราวกับกำลังคลายพลังปราณที่สะสมในร่างกายออกมาทั้งหมด

อาไตและฮั่วอวี่เฮ่าชำเลืองมองกันและกัน ใบหน้าของพวกเขาแสดงรอยยิ้มจางๆออกมา ใช่แล้ว ตอนนี้ไต้อิ๋งได้ทะลวงจุดฟ้าดินด้วยตัวเธอเอง พลังในจุดตันเถียนส่วนกลางของเธอและพลังในจุดตันเถียนส่วนล่างนั้นได้เชื่อมต่อกันผ่านจุดเชื่อมต่อฟ้าดิน เมื่อเชื่อมต่อถึงกัน มันก็เริ่มผสานกันได้ในความหมายที่แท้จริง จุดตันเถียนทั้งสองเชื่อมต่อกัน และก่อตัวเป็นวัฏจักรที่สมบูรณ์ พลังทั้งสองก็เริ่มผสานเข้าด้วยกัน

ในเวลานี้ความเร็วในการกลืนกินพลังชีวิตโดยรอบ และ พลังทางจิตวิญญาณของฟ้าดิน เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมเท่าตัว ที่เหลือก็เพียงแค่รอเวลาให้พลังทั้งหมดนี้รักษาเสถียรภาพเอาไว้ได้

ป.ล. :

ข้อความหมายเหตุ...

ตอนก่อนหน้า หน้าแรก/สารบัญ ตอนต่อไป