| ตอนที่31 คันธนูสามสาย |
 . โจวเหว่ยชิงส่ายหัว : "ไม่ ถ้าฉันปลดปล่อยทั้งชุดออกมา ธาราสองขั้วแห่งนี้คงราบเป็นหน้ากลอง สถานที่แห่งนี้เป็นสมบัติของสำนักถังและโรงเรียนเชร็ค แต่ฉันสามารถบอกคุณได้ว่าชุดศาสตรามณียุทธ์ของฉันมีอะไรบ้าง" . "ก็ดีเหมือนกัน" . โจวเหว่ยชิงเริ่มพูดคุยเกี่ยวกับการฝึกฝน การผันอัญมณี และชุดศาสตรายุทธ์ของเขาให้เมิ่งปิ้นไป๋ฟัง . ตอนนี้เมิ่งปิ้นไป๋ดูสงบลงมาก ความไม่พอใจก่อนหน้านี้ได้หายไปแล้ว เขาค่อยๆซึมซับเทคนิคการฝึกฝนอัญมณีที่เขาพึ่งเรียนรู้มา . 3วันต่อมา . "ครู ฉันตัดสินใจแล้ว" เมิ่งปิ้นไป๋พูดกับโจวเหว่ยชิงด้วยท่าทางจริงจัง . “โอ้ คุณคิดเรื่องนี้เร็วไปหรือเปล่า” โจวเหว่ยชิงกล่าวด้วยความประหลาดใจ อันที่จริงแล้ว เขาไม่ได้คิดด้วยซ้ำว่าจะใช้วิธีใดในการสร้างศาสตรามณียุทธ์ให้สมบูรณ์ เขาไม่ได้คาดหวังว่าเมิ่งปิ้นไป๋จะคิดได้ . "เมื่อสักครู่ ฉันคิดแล้ว ฉันอยากเรียนรู้เทคนิคการยิงธนูกับคุณ มณีสี่เม็ดแรกของฉัน ฉันหวังว่าจะสามารถสร้างคันธนูสามสายได้" ดวงตาของเขาเป็นประกาย . จากคำบรรยายของโจวเหว่ยชิง เมิ่งปิ้นไป๋รู้ทันทีว่าครูคนนี้ของเขาเชี่ยวชาญด้านการยิงธนู และมีทักษะในการยิงธนูที่ทรงพลัง . “คันธนูสามสายคืออะไร?” โจวเหว่ยชิงจ้องไปที่ศิษย์ของเขาด้วยท่าทางตกใจ . เมิ่งปิ้นไป๋กล่าวว่า :"ครู คุณบอกเองไม่ใช่หรือว่า ถ้าเราต้องการให้มณีสวรรค์ของเราเข้าถึงระดับสูงสุดในอนาคต เราก็ต้องเลือกเส้นทางให้ถูกต้อง" . ฉันได้ไตร่ตรองเรื่องนี้อย่างรอบคอบในช่วงสองสามวันนี้ ว่าเราจะไปให้ถึงจุดสูงสุดได้อย่างไร? . "คุณบอกว่าโดยทั่วไปแล้ว เราสามารถสร้างศาสตรามณียุทธ์ได้ เมื่ออัญมณีถูกปลุกขึ้น ผู้ที่มีพรสวรรค์ต่ำจึงสร้างศาสตรามณียุทธ์ได้เพียงไม่กี่ชิ้นเท่านั้น นั่นหมายความว่าเราอาจจะสร้างชุดศาสตราได้เพียงครึ่งตัวเท่านั้น ชุดเกราะสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งและใช้สำหรับป้องกัน และอีกหนึ่งหรือสองชิ้นควรเป็นอาวุธเพื่อสร้างเซ็ทศาสตรา เช่นเดียวกับชุดศาสตรามณียุทธ์ของคุณเพื่อให้มันสมบูรณ์ ซึ่งโดยรวมแล้วมันเพิ่มความแข็งแกร่งให้คุณเป็นอย่างมาก" . "อย่างไรก็ตาม ในความคิดของฉัน สิ่งนี้ยังห่างไกลจากความแข็งแกร่งสูงสุดอยู่มาก เนื่องจากเราไล่ตามความแข็งแกร่งสูงสุด ดังนั้นฉันจึงคิดว่าเราควรมุ่งเน้นการฝึกฝนไปในทิศทางเดียว นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันคิดที่จะสร้างคันธนูสามสาย " . "อัญมณีเม็ดแรกของฉัน ฉันจะควบแน่นมันเป็นคันศร คุณบอกว่าเมื่อความแข็งแกร่งเขาเราถึงระดับหนึ่ง ลูกธนูจะก่อตัวขึ้นเองในอากาศ ดังนั้นฉันจึงไม่ต้องการลูกธนู และคุณบอกว่ามณียุทธ์เม็ดแรกสำคัญที่สุด ดังนั้นฉันจึงสร้างมันเป็นคันธนูโดนไม่ต้องการสาย เพื่อให้มันแข็งแกร่งที่สุด" . "จากนั้นมณีเม็ดที่สองจะถูกควบแน่นเป็นสายของคันธนู และทุกสายที่เพิ่มขึ้น พลังของลูกศรที่ยิงได้จะเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ เมื่อคันธนูของฉันมีสามสาย คุณคิดว่าลูกศรลมของฉันจะแรงและเร็วขนาดไหน ฉันวางแผนจะฝึกฝนในลักษณะนี้ต่อไปในอนาคต และหลังจากนี้อัญมณีทุกเม็ดจะถูกควบแน่นเป็นสายของคันธนู มันจะเป็นการโจมตีที่ทรงพลังอย่างยิ่ง" . "เมื่อฉันไปถึงจุดสูงสุด คันธนูของฉันจะมีสิบเจ็ดสาย ถึงเวลานั้นฉันไม่แน่ใจว่าจะยิงเรือประจัญบานได้หรือไม่ ส่วนการป้องกันก็ไม่ได้สำคัญอีกต่อไป " . เมื่อมองไปที่ดวงตาของเมิ่งปิ้นไป๋และฟังที่เขาพูดถึงความคิดตัวเองทั้งหมด โจวเหว่ยชิงก็รู้สึกเหมือนเขากำลังฟังเรื่องลี้ลับอยู่ . เมิ่งปิ้นไป๋ยังเป็นเด็กไม่ว่าเขาจะฉลาดแค่ไหน จินตนาการของเขาก็ยังถูกจำกัดอยู่ในขอบเขต . อย่างไรก็ตามโจวเหว่ยชิงตระหนักได้ดีถึงพลังของการผันอัญมณีสิบสองเม็ด แต่ว่าการผันอัญมณีสิบแปดเม็ดนั้นเป็นเพียงจินตนาการของเขาเท่านั้น และเขาคิดว่าถ้าสามารถผันอัญมณีได้ถึงสิบหกเม็ด ก็จะมีพลังอยู่ในระดับราชันเทพ เช่นนั้นแล้วหากฝึกฝนจนผันอัญมณีได้สิบแปดเม็ดและสร้างสายของคันธนูได้สิบเจ็ดสาย อย่าว่าแต่ทำลายเรือประจัญบานเลย ดาวเคราะห์ก็อาจจะถูกทำลายได้จากการยิงเพียงดอกเดียว . แน่นอนว่ามันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะฝึกฝนคันธนูสิบเจ็บสาย ด้วยการซ้อนทับกันของสายธนู ความแข็งแกร่งในการง้างสายธนูก็เพิ่มขึ้นในทางเรขาคณิตเช่นกัน ถึงแม้จะสร้างคันธนูสิบเจ็ดสายได้สำเร็จ แต่ก็เป็นการยากที่จะใช้งาน . อย่างไรก็ตาม จินตนาการของเมิ่งปิ้นไป๋ก็ได้เปิดโลกใบใหม่ให้แก่เขา . จุดสูงสุด! จุดสูงสุดของความแข็งแกร่งคืออะไร? นั่นคือการทับซ้อนกันอย่างต่อเนื่อง หากสามารถทำการซ้อนทับกันได้สำเร็จจริงๆ มันจะเป็นความแข็งแกร่งที่ไม่มีใครเทียบได้ . โจวเหว่ยชิงมองไปที่เมิ่งปิ้นไป๋ด้วยสายตาที่ลึกซึ้ง และกล่าวว่า :"ถ้าคุณสามารถสร้างและใช้งานคันธนูสิบเจ็ดสายได้จริงๆ อย่าว่าแต่ยิงเรือประจัญบานเลย แม้แต่ดาวเคราะห์ก็ไม่สามารถต้านทานพลังระเบิดได้ . แต่ฉันต้องเตือนคุณไว้สักหน่อยนะ ว่าการซ้อนทับแบบนี้ มันไม่ง่ายเหมือนกับการที่หนึ่งบวกหนึ่งเป็นสอง ยิ่งสายซ้อนกันมากเท่าไหร่ แรงที่ต้องใช้ก็มากขึ้นในทางเรขาคณิต กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ถึงแม้คุณจะสร้างคันธนูสิบเจ็ดสายได้ แต่ก็อาจจะไม่มีแรงง้างสายธนู" . หลังจากที่เมิงปิ้นไป๋ได้ฟัง ดวงตาของเขาก็เริ่มเปล่งประกายขึ้นเรื่อยๆและกล่าวว่า "ไม่นะครู ฉันไม่คิดอย่างนั้น" เนื่องจากภาควิชากลศาสตร์ของเรากำลังมุ่งสู่จุดสูงสุดของความแข็งแกร่ง และฉันมั่นใจว่าฉันจะฝึกฝนและพัฒนาไปสู่จุดสูงสุดได้ . ตัวอย่างเช่น เมื่อฉันมีคันธนูหนึ่งสาย จากอัญมณีเม็ดแรกเป็นคันธนู และอัญมณีเม็ดที่สองเป็นสายธนู การง้างสายธนูก็ไม่น่าจะมีปีญหา แต่เมื่อฉันมีสายธนูเพิ่มเป็นสองสาย การง้างสายธนูก็จะยากขึ้นไปอีกและอาจจะเป็นไปได้ว่าอาจจะง้างได้อีกไม่กี่ครั้ง และเมื่อมีสายต่อๆไป ก็จะยากขึ้นเรื่อยๆ . "เพราะการฝึกจำนวนสายที่มากเป็นเรื่องยาก พอลดจำนวนสายตอนใช้งานลง มันก็จะเป็นเรื่องง่ายในการยิง ในทางกลับกันเมื่อจำนวนสายน้อยแต่มีพลังโจมตีที่อยู่ในระดับสูงแล้ว การง้างสายที่มากขึ้นเพียงส่วนหนึ่งก็อาจทำให้ศัตรูไม่สามารถยับยั้งได้ ยิ่งไปกว่านั้น ฉันคิดว่าการดึงสายจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง ก็เป็นการออกกำลังเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งได้เช่นกัน . นอกจากนี้คุณแข็งแกร่งมาก ฉันคิดว่ามีความลับบางอย่างที่ทำให้คุณปะทุพลังของคุณได้ในช่วงเวลาวิกฤตและได้ผลที่น่าทึ่ง ฉันพูดถูกไหม?" . โจวเหว่ยชิงมองสาวกตัวโตข้างหน้าของเขาด้วยความงุนงง . เมื่อเมิ่งปิ้นไป๋ถูกเขาทรมานก่อนหน้านี้ เขายังไม่รู้สึกพิเศษอะไรมาก เขาแค่คิดว่าเด็กคนนี้ฉลาดและสงบ แต่เมื่อเขาเห็นความคิดของเด็กคนนี้ เขารู้สึกโล่งใจมาก ความจริงก็คือเขาเป็นถึงราชันเทพ ความคิดที่ไร้ข้อจำกัด สำหรับเขาแล้วมีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูง แต่ตอนนี้โจวเหว่ยชิงรู้สึกว่าเขาได้พบสมบัติเข้าแล้ว . "ตกลง ถ้าอย่างนั้นก็ฝึกฝนตามที่คุณคิด ถึงแม้จะล้มเหลว แต่เราก็เริ่มต้นใหม่ได้" โจวเหว่ยชิงตัดสินใจยอมรับเมิ่งปิ้นไป๋เป็นศิษย์ผู้สืบทอดในทันที . "ไม่ๆครู คุณเข้าใจผิดแล้ว" ในเมื่อคุณกำลังไล่ตามจุดสูงสุดของความแข็งแกร่ง คุณจะละทิ้งหนทางของตัวเองได้อย่างไร? หากปราศจากความเชื่อว่าจะสามารถประสบความสำเร็จ การจะฝึกให้สำเร็จก็อาจจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ครูไม่ต้องกังวลไป ยังไงก็ลงเรือลำเดียวกับคุณแล้ว ฉันทำได้แค่ก้าวต่อไปอย่างกล้าหาญ ครูได้โปรดสอนฉันด้วย ----------------------------------------------------------------------------------------- |
0 comments:
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น