🏫Douluo Dalu 4.5 : บทที่33 เตรียมสอบปลายภาค

📚 Douluo Dalu 4.5 (Side Story) : Shrek Heavenly Mission

บทที่33 : เตรียมสอบปลายภาค

เหลยเซียงยิ้ม : "ถ้าอย่างนั้นฉันจะคอยดู ว่านักเรียนของคุณจะแสดงความสามารถแบบไหน อย่างไรก็ตามเมื่อการประเมินมาถึงมันคงจะชัดเจน อาไตแล้วสาวน้อยของคุณเป็นอย่างไรบ้าง โดยปกติแล้วเธอมีรากฐานที่ดี และเป็นถึงลูกสาวของอวี่เฮ่าและหลานสาวของถังซาน "

อาไตยิ้มเล็กน้อยและกล่าวว่า :"เธอฝึกฝนอย่างหนักและทำได้ดีมาก"

เหลยเซียงขมวดคิ้ว เขารู้นิสัยของอาไตเป็นอย่างดี อาไตเป็นคนไม่พูดจาพล่อยๆอย่างแน่นอน ถ้าเขาพูดชมเชยแบบนี้แสดงว่าไต้อิ๋งน่าจะมีความสามารถค่อนข้างดี

เหลยเซียงหันไปมองที่โจวเหว่ยชิง โจวเหว่ยชิงก็รู้ตัวในทันทีและพูดว่า :"ทำไม? คุณต้องการสอดแนมสถานการณ์ของฉันหรือไม่? อย่าแม้แต่จะคิด ฉันไม่สามารถบอกคุณได้ว่าลูกศิษย์ของฉันสุดยอดแค่ไหน"

"ศิษย์?" เหลยเซียงขมวดคิ้ว

ศิษย์และนักเรียนในความคิดของเขามันต่างกัน ศิษย์คือการดำเนินอยู่ด้วยสถานะของผู้สืบทอดมรดก แต่นักเรียนก็เป็นแค่นักเรียนธรรมดาที่ได้รับการสั่งสอนทั่วไป ที่นี่พวกเขาคือครูที่สามารถสอนนักเรียนได้หลายคน แต่ถ้าเป็นศิษย์จะแตกต่างไปอย่างแน่นอน

โจวเหว่ยชิงสามารถยอมรับเด็กคนนั้นเป็นศิษย์ด้วยระยะเวลาสั้นๆแค่นี้? ถ้ามองจากมุมนี้เกรงว่าคราวนี้มันอาจจะไม่ง่ายอย่างที่เขาคิด!

โจวเหว่ยชิงยิ้มอย่างมีชัย : "ถ้าคุณกลัว ก็เป็นเรื่องที่ถูก ฉันได้รับเขาเป็นลูกศิษย์อย่างเป็นทางการแล้ว"

"พูดมากไปก็ไม่มีประโยชน์ มันต้องวัดกันที่ฝีมือ ก็เหมือนกับคุณที่ไม่สามารถเอาชนะฉันได้ ลูกศิษย์ของคุณก็คงไม่ดีเท่ากับลูกศิษย์ของฉันเหมือนกัน" เหลยเซียงกล่าวอย่างดูถูก

โจวเหว่ยชิงกล่าวว่า "ถึงเวลานั้นถ้าลูกศิษย์ของคุณพ่ายแพ้ ก็อย่าร้องไห้แล้วกัน"

"คุณนั่นแหละที่ต้องร้องไห้ อย่าโทษฉันที่ทำให้น้องสาวทั้งสามคนที่บ้านของคุณลำบากใจ" เหลยเซียงกล่าว

"มีมากกว่าสามคนในบ้านของคุณ และการร้องไห้ของพี่สาวสี่คนน่าตื่นเต้นยิ่งกว่า" โจวเหว่ยชิงโต้กลับทันที

อาไตขมวดคิ้ว :"มันใช่เรื่องที่ต้องเอามาโอ้อวดกันหรือ"

เวลาผ่านไปวันแล้ววันเล่า โรงเรียนเชร็คก็ยังเป็นโรงเรียนเชร็ค นักเรียนที่มาเรียนที่นี่ ไม่จำเป็นต้องบังคับ เพราะแต่ละคนต่างก็มีความรู้สึกกระตือรือร้นเป็นอย่างมาก

ท้ายที่สุดแล้ว ความกดดันที่ยากจะกำจัดออกไปได้ คือการประเมินในแต่ละปี ทุกคนหวังว่าจะผ่านการประเมินจากลานด้านนอกและกลายเป็นสมาชิกของลานด้านใน

เป็นการยากมากที่จะผ่านการประเมินจากลานด้านนอกและเข้าสู่ลานด้านในของโรงเรียนเชร็ค แต่เมื่อคุณกลายเป็นนักเรียนของลานด้านในของโรงเรียนเชร็คแล้ว เท้าของคุณเกือบครึ่งก้าว ก็เข้าสู่ระดับพระเจ้าไปแล้ว เพื่อที่จะกลายเป็นเทพที่แท้จริงและมีอายุอันเป็นนิรันดร์

แม้ว่าจะเป็นเพียงอายุขัยทางทฤษฎี แต่ก็สามารถแยกตัวออกจากอาณาจักรมนุษย์ได้ นี่แทบจะเป็นความฝันของมนุษย์ทุกคน

ดังนั้นนักเรียนของโรงเรียนเชร็คทุกคนจึงฝึกฝนกันอย่างหนัก และในปีนี้ก็ไม่มีข้อยกเว้น หนึ่งปีสำหรับการฝึกฝนอย่างหนักได้ผ่านไป

ราชันเทพเจ้าทั้งสี่ได้เข้าร่วมโรงเรียนเชร็ค จัดตั้งแผนกและเป็นครูที่โรงเรียนเชร็ค พริบตาเดียวก็ผ่านไปแล้วหนึ่งปี และตอนนี้ก็เป็นเวลาสอบปลายภาคของภาคเรียนนี้แล้ว

จำนวนนักเรียนที่รับเข้าเรียนในปีนี้ค่อนข้างมาก มีจำนวนมากกว่าพันคน

หลังจากที่แผนกใหม่ทั้งสี่ได้เลือกนักเรียนเข้าเรียนไปแล้ว แผนกอื่นๆก็ได้คัดเลือกสมาชิกจากการประเมินรอบต่อๆไป ในท้ายที่สุด คุณภาพของนักเรียนในปีนี้ก็ดีเยี่ยม จึงมีผู้ผ่านการคัดเลือกนับพันคน

สิ่งที่สร้างความประหลาดใจให้กับนักเรียนในตอนนั้นก็คือ แผนกทั้งสี่ที่ได้รับสมัครแบบพิเศษในขั้นต้นไม่ปรากฏอีกเลย ซึ่งเป็นที่ถกเถียงกันมากในขณะนั้น

อย่างไรก็ตามข้อถกเถียงเหล่านี้ก็หายไปอย่างรวดเร็ว เพราะนักเรียนที่เลือกโดยแผนกทั้งสี่ก็ไม่ปรากฏให้พวกเขาเห็น หรือเข้าเรียนกับนักเรียนคนอื่นๆอีกเลย

ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา นักเรียนในชั้นประถมศึกษาปีที่หนึ่งฝึกฝนกันหนักมาก เพราะทุกคนรู้ดีว่าการสอบปลายภาคกำลังจะมาถึง การสอบปลายภาคจะทดสอบความสามารถที่เรียนรู้มาในระยะเวลาหนึ่งปี

เนื่องจากในภาคการศึกษานี้มีนักเรียนจำนวนมาก จึงมีข่าวลือว่าหลังจากสอบปลายภาคแล้ว จะมีนักเรียนห้าสิบคนถูกคัดออก กล่าวคือนักเรียนห้าสิบอันดับสุดท้ายของการประเมินจะถูกคัดออกและไม่ได้เรียนต่อที่โรงเรียนเชร็ค

ดังนั้นผู้เข้ารับการฝึกอบรมจึงมีความกระตือรือร้นและเตรียมพร้อมสำหรับการประเมิน

"ตี๊ด ตี๊ด ตี๊ด ตี๊ด ตี๊ด ตี๊ด!

ตอนนี้ไม่ใช่เวลาเรียน แต่เครื่องมือสื่อสารที่ข้อมือของนักเรียนปีหนึ่งก็ดังขึ้น นักเรียนทุกคนมองไปที่เครื่องมือสื่อสารบนข้อมือของพวกเขาโดยไม่รู้ตัว

เครื่องมือนี้ถูกจัดสรรให้โดยโรงเรียนเชร็คเพื่อความสะดวกสบายของนักเรียนในการติดต่อสื่อสาร เครื่องมือสื่อสารนี้ล้ำหน้ามาก มันเป็นเครื่องมือพิเศษของโรงเรียนเชร็คที่มีฟังก์ชั่นที่ล้ำสมัย

นักศึกษาชั้นปีที่หนึ่งทุกคนได้รับข้อความเดียวกัน

"การสอบปลายภาคจะมีขึ้นในอีกสามวันข้างหน้า นับตั้งแต่วันนี้จะไม่มีการเรียนการสอน ขอให้นักเรียนทุกคนพักผ่อนให้เต็มที่ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการสอบปลายภาคในอีกสามวันข้างหน้า การสอบปลายภาคจะมีการจัดอันดับครั้งใหญ่ และนักเรียนห้าสิบอันดับสุดท้ายจะถูกคัดออก และไม่สามารถเรียนต่อที่โรงเรียนเชร็คได้อีก"

ข่าวลือก่อนหน้านี้ก็เป็นเรื่องหนึ่ง แต่เมื่อได้รับข่าวจริงๆ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง โดยเฉพาะเหล่านักเรียนที่ไม่ค่อยมั่นใจในฝีมือของตัวเอง

นักเรียนสี่คนนั้นจะมาปรากฏตัวหรือไม่?

นักเรียนดีเด่นจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ และนักเรียนทุกคนก็รู้ดีว่าการได้ตำแหน่งที่สูงนั้นจะสามารถได้รับทรัพยากรเพิ่มเติมจากโรงเรียนเชร็ค บรรยากาศจึงตรึงเครียดขึ้นมาทันที

นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายได้ทำการประเมินขั้นสุดท้ายไปแล้ว และชั้นประถมศึกษาปีที่หนึ่ง จะเป็นกลุ่มสุดท้าย จนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครรู้ว่าการสอบปลายภาคจะเป็นอย่างไร

สำหรับวิธีการทดสอบที่แตกต่างกันของนักเรียนแต่ละคน ผลลัพธ์ก็จะแตกต่างกันเป็นธรรมดา

การสอบของโรงเรียนเชร็คขึ้นชื่อว่ายุติธรรม แต่ในการทดสอบก็ยังให้ความสำคัญกับการประเมินคุณภาพโดยรวมของนักเรียนเป็นสำคัญ

มีหกคนในห้องของคณบดีลานชั้นนอก หลันเมิ่งฉินนั่งอยู่หลังโต๊ะคณบดี

ที่โซฟาด้านหน้ามีคนนั่งอยู่ห้าคน โซฟาที่นั่งใกล้หลันเมิ่งฉินที่สุด เป็นชายหนุ่มรูปร่างสูง มีรอยยิ้มจางๆบนใบหน้าของเขา สายตาเขามักจ้องมองไปยังหลันเมิ่งฉินเป็นครั้งคราว

"เมิ่งฉิน คุณยังไม่ตัดสินใจหรือ? เวลากระชั้นชิดเข้ามาแล้ว และข้อความก็ถูกส่งออกไปแล้ว การประเมินจะเริ่มขึ้นในสามวัน

“ชายหนุ่มร่างสูงพูดด้วยรอยยิ้ม

หลันเมิ่งฉินกล่าวอย่างไม่พอใจว่า “คุณไม่ต้องสนใจเรื่องนี้

คุณรู้ไหมว่าครั้งนี้มันลำบากขนาดไหน ที่นักเรียนของสี่เทพ กับ นักเรียนธรรมดาจะมาประเมินพร้อมกัน มันจะยุติธรรมกับนักเรียนธรรมดาหรือไม่? ประเด็นก็คือเรายังไม่รู้ว่านักเรียนที่ราชันเทพทั้งสี่สอนนั้น อยู่ในระดับไหนแล้ว พวกคุณลองเสนอความคิด ลองช่วยฉันคิดวิธีหน่อยเถอะ

ชายหนุ่มร่างสูงยักไหล่แล้วกล่าวว่า “พวกเขาน่าจะประเมินได้ยาก! นี่เป็นครั้งแรกที่นักศึกษาจากแผนกแสงศักดิ์สิทธิ์ แผนกชีวิตและความตาย แผนกปลุกพลัง และแผนกกลศาสตร์ได้รับการฝึกและเข้าร่วมการประเมินเป็นครั้งแรก หรือฉันควรจะทดสอบด้วยตัวเอง? ให้ฉันอัญเชิญเบเฮมอธ?

ชายหนุ่มร่างเพรียวอีกคนหนึ่งพูดอย่างหงุดหงิด “เฉียนเล่ย คุณไม่กลัวว่าราชันเทพทั้งสี่จะจัดการคุณหรือ?

เมิ่งฉินคุณเคยถามราชันเทพทั้งสี่หรือไม่ว่าพวกเขาต้องการทำการประเมินอย่างไร?

หลันเมิ่งฉินส่ายหัว และทั้งห้าคนที่อยู่ตรงนี้เป็นเพื่อนของเธอ ยกเว้นเฉียนเล่ยซึ่งเป็นสามีของเธอ

ป.ล. :

ข้อความหมายเหตุ...

ตอนก่อนหน้า หน้าแรก/สารบัญ ตอนต่อไป