| ตอนที่40 เผชิญหน้าไข่อีสเตอร์ |
 . เมื่อเขาเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น เขาก็หันหลังและรีบวิ่งหนีไปโดยไม่ลังเล . ในช่วงเริ่มการทดสอบ พวกเขาปรากฏตัวอยู่ที่เดียวกันและอยู่ไม่ไกลจากกัน หลังจากพวกเขาสื่อสารกัน ก็บรรลุข้อตกลงในความร่วมมือ ทีมของพวกเขาจึงถูกจัดขึ้นชั่วคราว ก่อนที่พวกเขาจะได้พบกับอีเฉิน . สามต่อหนึ่ง ในมุมมองของพวกเขา พวกเขามีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในการโจมตี แต่อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขาได้พบกับอี้เฉินจริงๆ พวกเขาถึงตระหนักได้ว่า"ไข่อีสเตอร์"ชื่อแดง ไม่ง่ายเลยที่จะเอาชนะได้ . ในเวลานี้อีเฉินจะปล่อยเขาหนีไปได้อย่างไร? อีเฉินใช้เทคนิคเทพพิโรธ ปลายเท้าขวาของเขาแตะพื้นแล้วพุ่งออกไปราวกับกระสุนปืนใหญ่ไล่ตามฝ่ายตรงข้าม . อีกด้านหนึ่ง ปรมาจารย์จิตวิญญาณการต่อสู้ขวานใหญ่ที่ทรุดตัวลงไป ได้ลุกขึ้นมาแล้ว แต่ก็อดไม่ได้ที่จะพ่นเลือดออกมาเต็มปากในเวลานี้ ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนอวัยภายในกำลังเผาไหม้ เหมือนมีพลังพิเศษบางอย่างกำลังซึมซาบเข้าสู่ร่างกายของเขา และทำลายทุกอย่างในตัวเขาอย่างบ้าคลั่ง . แม้ว่าอีเฉินจะไม่สามารถควบคุมพลังทำลายล้างในสายเลือดของเขาได้อย่างสมบูรณ์ แต่พลังทำลายล้างส่วนหนึ่งของเขา ได้ผสานเข้ากับเคล็ดวิชาที่เขาฝึกฝน ซึ่งมันได้เพิ่มพลังทำลายล้างที่มีให้กับเขา . ปรมาจารย์วิญญาณขวานใหญ่คงจะรู้สึกอึดอัดมาก เพราะความเร็วที่ทุกสิ่งในร่างกายของเขากำลังถูกทำลายนั้น รวดเร็วกว่าความเร็วในการฟื้นตัวของเขามาก . พลังทำลายล้างที่น่าสยดสยองปะทุขึ้นมาอีกทันที ทำให้พื้นที่ทั้งหมดบิดเบี้ยว ผลของการถูกจับโดยอีเฉินสามารถจินตนาการได้ แต่ระบบควบคุมของฝ่ายตรงข้ามก็พยายามที่จะควบคุมอีเฉิน อย่างไรก็ตามในการเผชิญหน้ากับอีเฉินที่อยู่ในสภาพของสภาวะคลั่งกระหายเลือด เขาจะประสบความสำเร็จได้อย่างไร? . เมื่ออีเฉินเดินกลับมาอีกครั้ง คะแนนของเขาก็เพิ่มขึ้นเป็นหนึ่งร้อยสาม และนักเรียนที่มีจิตวิญญาณการต่อสู้ขวานใหญ่ ตอนนี้ใบหน้าเขาก็มีรอยยิ้มบิดเบี้ยวอยู่บนใบหน้าของเขาแล้ว . จิตวิญญาณการต่อสู้ของเขาพังทลายลง อันที่จริงแล้วเขาเป็นคนต้านทานการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของอีเฉิน ความบ้าคลั่งกระหายเลือดและสายเลือดแห่งความบ้าคลั่งมีพลังปะทุที่ทรงพลังมากที่สุด ในการปะทุพลังกระทันหันทำให้ประสิทธิภาพการต่อสู้ของอีเฉินมาถึงจุดสูงสุด . หนึ่งปีก่อนอีเฉินเข้าร่วมโรงเรียนเชร็ค ขณะนั้นเขามีวงแหวนเพียงสามวง แต่ประสิทธิภาพการต่อสู้ที่แท้จริงของเขาไม่ด้อยไปกว่าปรมาจารย์วิญญาณสี่วงแหวน ระยะเวลาเพียงหนึ่งปีภายใต้การฝึกแบบพิเศษของเหลยเซียง พลังของเขาถูกปลุกขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าการกระตุ้นทุกครั้งจะทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดอย่างสุดซึ้ง แต่หลังจากการกระตุ้นอย่างรุนแรงก็ทำให้ระดับการฝึกฝนของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล . “ขอโทษนะ!” เสียงของอีเฉินแผ่วเบาเล็กน้อย เขาอยู่ในสภาพที่บ้าคลั่ง แข็งแกร่ง และมีพลังกดขี่ที่น่าสะพรึงกลัว . ด้วยพลังหมัดของเขาทำให้ตอนนี้เขาได้คะแนนที่สี่ . หลังจากสังหารคู่ต่อสู้ทั้งสามคน ร่างกายของอีเฉินก็กลับเข้าสู่สภาวะปกติ ขณะนี้บนร่างของเขาเหลือเพียงกางเกงตัวเดียวที่ยังคงสภาพเดิม เสื้อผ้าส่วนอื่นบนร่างกายของเขาขาดไปทั้งหมดแล้ว . สำหรับสิ่งนี้เขาคุ้นเคยกับมันมานานแล้ว และมันมักจะเกิดขึ้นกับเขาบ่อยๆตั้งแต่ที่เขาฝึกซ้อมกับเหลยเซียง ดังนั้นในระหว่างซ้อมเขาจึงมักไม่ได้สวมใส่เสื้อเพื่อเป็นการประหยัด . ในขณะที่เขากำลังฉีกเศษผ้าบนร่างกายเขา ก็เหลือบไปมองแผนที่ในเครื่องมือสื่อสารนำวิญญาณ แผนที่กำลังจะหดตัว แต่สถานที่เขาอยู่ในตอนนี้ อยู่ในเขตปลอดภัยแล้ว นั่นหมายความว่าเขาอยู่ในเขตปลอดภัยแล้ว จุดสีแดงสี่จุดที่แสดงก่อนหน้านี้บนแผนที่ ในตอนนี้ก็ได้หายไปแล้ว นั่นหมายความว่าพวกเขาจะไม่ตกอยู่ในอันตราย จากการถูกเปิดเผยตัวตนในแผนที่ชั่วคราว แน่นอนว่านี่เป็นเพียงความปลอดภัยชั่วคราว ถ้าใครมาเห็นพวกเขาตัวเป็นๆต่อหน้า ชื่อของพวกเขาซึ่งเป็นสีแดงสดก็คงสะดุดตาต่อผู้พบเห็น และยังคงมองเห็นได้อย่างชัดเจน . เขายังมีความกังวลและไม่รีบร้อนที่จะจากไป เขาเดินไปที่ต้นไม้ใหญ่และนั่งพักสักครู่ . ในขณะนี้เขากำลังเดินลมปราณอย่างดุเดือด ใบหน้าเขาดูซีดลงเล็กน้อย เขากำลังใช้วิชาเทพพิโรธอย่างเงียบๆเพื่อฟื้นฟูพลังของเขา . ณ ห้องสังเกตการณ์ . "นั่นเขาปลุกพลังสำเร็จแล้วหรือ? ปลุกความบ้าคลั่งเสร็จสิ้นภายในหนึ่งปี เป็นไปได้ยังไง?" โจวเหว่ยชิงกล่าวด้วยความตกใจ . เหลยเซียงกล่าวว่า : "ถ้าไม่สามารถปลุกพลังความบ้าคลั่งให้สำเร็จได้ภายในหนึ่งปี เขาจะมีคุณสมบัติเป็นนักเรียนของฉันหรือไม่?" . โจวเหว่ยชิงยกนิ้วโป้งให้เขาและพูดอย่างจริงใจ : "ดูเหมือนว่า บางทีคุณอาจจะคิดถูก เขาอาจเหมาะกับคุณมากกว่าจริงๆ อนาคตของเด็กคนนี้ไม่มีขีดจำกัด! อย่างไรก็ตาม เขาเข้าสู่ความบ้าคลั่งตั้งแต่ช่วงต้นของการสอบ แล้วจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้? ถ้าจำไม่ผิดหลังจากใช้เทคนิคความบ้าคลั่ง เขาจะอ่อนแอลง" . เหลยเซียงเหลือบมองไปที่เขา :"คุณแค่รอดู" . เนื่องจากการต่อสู้ที่ค่อนข้างประทับใจของอีเฉิน ทำให้มอนิเตอร์หลักจับภาพของเขาอย่างต่อเนื่อง และการต่อสู้ที่พึ่งจบลง คณะครูทั้งหลายต่างก็ตกตะลึงกับผลงานอันโดดเด่นของเขา อย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัดว่าตอนนี้ อีเฉินอยู่ในช่วงพักและไม่ได้มีการต่อสู้อีก . ตอนนี้ฉากในมอนิเตอร์หลักได้เปลี่ยนการจับเป้าหมาย . สถานที่ยังคงอยู่ในป่าเช่นเดิม แต่มีร่างที่สง่างามกำลังเคลื่อนไหว ใบหน้าของเธอเปล่งประกาย มีปีกที่ส่องสว่างเจิดจรัสอยู่ด้านหลังของเขาคู่หนึ่ง เมื่อเขากระพือปีกแต่ละครั้ง ความเร็วของเขาจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย . เธอถือดาบที่มีความยาวพอๆกับส่วนสูงของเธออยู่ในมือ มันดูจะไม่เหมาะสมกับเธอมากนัก . มีออร่าสีแดงรอบๆตัวเธอ เห็นได้ชัดว่าเธอเป็น"ไข่อีสเตอร์"ที่มีชื่อสีแดง . ไต้อิ๋งจากแผนกชีวิตและความตาย! . จากห้องสังเกตการณ์ พวกเขาจะเห็นได้ว่านักเรียนแต่ละคน จะมีตัวเลขสีแดงอยู่บนหัวของเขา และตัวเลขเหล่านี้ก็คือคะแนนในปัจจุบันของพวกเขา . เลขบนหัวของไต้อิ๋งคือหนึ่งร้อยหก . ใช่แล้ว เธอฆ่านักเรียนไปแล้วหกคน ในแง่ของคะแนน เธออยู่เหนืออีเฉิน . "ไข่อีสเตอร์" นี่คือ "ไข่อีสเตอร์" หรือว่านักเรียนจากแผนกที่จัดตั้งใหม่ทั้งสี่ จะแข็งแกร่งจริงๆ? . ตอนนี้สายตาคณะครูของโรงเรียนเชร็คแทบทุกคน ต่างก็มองไปที่ครูแผนกใหม่ทั้งสี่โดยพร้อมเพรียงกันโดยไม่รู้ตัว . แค่"ไข่อีสเตอร์" สองคนนี้ ก็กำจัดนักเรียนไปแล้วสิบคน นักเรียนที่ถูกกำจัดไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่แข็งแกร่ง แต่เป็นเพราะความโชคร้ายที่ต้องมาเจอกับพวกเขา . ในฐานะที่เป็น"ไข่อีสเตอร์"ชื่อสีแดง ทั้งสี่คน พวกเขาจะได้คะแนนเริ่มต้น100คะแนน แต่เมื่อพวกเขาถูกฆ่า เขาจะไม่ได้ถูกหักเพียงครึ่งเดียว แต่จะถูกหักทั้งหมด สำหรับนักเรียนทั่วไป ถ้าสังหารไข่อีสเตอร์ได้ ก็จะสามารถหลุดพ้นจากการเป็นห้าสิบอันดับสุดท้ายได้ . นอกจากนี้ ไต้อิ๋งยังดูผ่อนคลายกว่าอีเฉินอย่างเห็นได้ชัด ท่าทางที่ดูสบายๆของเธอ ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ใช้พลังงานจนมากเกินไป . ในขณะนั้น จู่ๆ ก็มีฉากหนึ่งปรากฏขึ้นบนหน้าจอซึ่งทำให้คณะครูรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เพราะในวิสัยทัศน์ของไต้อิ๋ง พวกเขาเห็นคนนั่งอยู่บนพื้นอยู่ห่างออกไปไม่ไกล คนนี้หน้าซีดเล็กน้อยและเขากำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัวด้วยการทำสมาธิ . จากภาพมอนิเตอร์ดูเหมือนทุกอย่างจะหยุดนิ่ง ในขณะนี้ ชื่อแดงพบกับชื่อแดง? . จากหลักเกณฑ์ของการประเมิน ชื่อแดงเหล่านี้ยังคงต้องต่อสู้กันเอง เพราะผู้ชนะคนสุดท้ายจะมีเพียงคนเดียวเท่านั้น . หากพวกเขาฆ่ากันเอง พวกเขาจะได้รับคะแนนเริ่มต้นของอีกฝ่าย หนึ่งร้อยคะแนน บวกครึ่งหนึ่งของคะแนนที่พวกเขาได้รับจากการต่อสู้ . เมื่อชื่อแดงกับชื่อแดงมาเจอกัน มันจะเป็นการต่อสู้ที่น่าสะพรึงขนาดไหน? พวกเขาไม่เคยเห็นความแข็งแกร่งของไต้อิ๋งมาก่อน แต่พวกเขาเห็นความแข็งแกร่งอันทรงพลังของอีเฉินมาอย่างชัดเจน ว่ามีระดับอย่างน้อยห้าวงแหวนเป็นอย่างต่ำ . แข็งแกร่ง! . ในตอนนี้"ไข่อีสเตอร์"ชื่อสีแดง เห็นได้ชัดว่าเป็นกลุ่มบุคคลที่มีคะแนนมากที่สุดในกลุ่มผู้เข้าสอบ และพวกเขาทั้งหมดสามารถโน้มน้าวกันและกันได้ . ในขณะที่ไต้อิ๋งปรากฏตัว อีเฉินก็สัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง จึงลืมตาขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว . ดวงตาทั้งสองสบกัน และทั้งคู่ก็มองเห็นกันและกัน . ปีกแสงที่อยู่ด้านหลังของไต้อิ๋งเกือบจะสว่างขึ้นในทันที มือของเขาถือดาบยาว ความเร็วของเธอเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และบินตรงไปยังอีเฉิน . อีเฉินหรี่ตาและขยับริมฝีปากของเขา ดูเหมือนจะพึมพำอะไรบางอย่าง . เวลาต่อมา การเปลี่ยนแปลงที่สั่นสะเทือนโลกได้เกิดขึ้น ผิวขาวๆของเขาซีดลงกว่าเดิม อารมณ์ที่ดูดุดันก่อนหน้านี้ ได้กลายเป็นสงบเยือกเย็น ปีกสีดำสนิทคู่หนึ่งปรากฏขึ้นด้านหลังของเขาแทบจะทันที . "ความมืดบดจิตวิญญาณ ข้าเป็นอิสระจากความตาย จงตื่นขึ้นเถิดทูตตกสวรรค์ในตัวข้า" . "ร่างจำแลงทูตตกสวรรค์" ----------------------------------------------------------------------------------------- |
0 comments:
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น