Douluo Dalu 4.5 : ตอนที่46 การต่อสู้แบบทีม

ตอนที่46 การต่อสู้แบบทีม

ในอีกด้านหนึ่ง
.
"พวกเขาสองคนก็อยู่ด้วยกัน" อีเฉินและไต้อิ๋งยืนดูแผนที่อยู่ข้างๆกัน
.
"เราควรไปพบพวกเขาตอนนี้ไหม?" ไต้อิ๋งถาม
.
อีเฉินกล่าวว่า : "ไม่ต้องรีบ เมื่อนักเรียนคนอื่นเห็นเราอยู่ด้วยกัน พวกเขาก็อาจจะคาดเดาได้ว่าเราทั้งสี่คนเป็นพวกเดียวกัน และอาจจะนัดพบเพื่อรวมกลุ่มกัน ดังนั้นมีความเป็นไปได้อย่างมากที่พวกเขาอาจจะซุ่มโจมตีเราระหว่างการเดินทาง ด้วยเหตุผลนี้ เราไม่สามารถรีบร้อนเพื่อไปพบพวกเขาได้ เพราะระหว่างทางนั้นอันตราย"
.
ไต้อิ๋งกระพริบตา : "สมเหตุสมผล งั้นเราไปล่ากัน" ไปตรงที่ผู้คนพลุกพล่านกันเถอะ
.
อีเฉินพยักหน้าและกล่าวว่า : "ตกลง"
.
ทั้งสองคนไม่ได้ไปทางหลิงอวี่โม่และเมิ่งปิ้นไป๋ แต่ไปในทิศทางอื่นที่ห่างไกลมากขึ้น
.
พื้นที่ในรอบนอก เป็นพื้นที่นักเรียนส่วนใหญ่มีการเคลื่อนไหวกันมาก เนื่องจากขอบเขตการสอบหดตัวลง พวกเขาจึงต้องเคลื่อนตัวไปยังที่ปลอดภัย ในกระบวนการนี้โอกาสที่พวกเขาจะเผชิญหน้ากันนั้นมีมากขึ้น
.
ไต้อิ๋งและอีเฉินกระโดดลอยตัวขึ้น ปีกผีเสื้อเทพธิดาแห่งแสงถูกปลดปล่อยจากไต้อิ๋ง และอีเฉินปลดปล่อยปีกสีดำของทูตตกสวรรค์ ทั้งสองคนเคลื่อนที่ไปข้างหน้าบนท้องฟ้าเหนือป่า แต่ยังคงรักษาระดับของความมืดและแสงสว่าง ซึ่งเป็นลักษณะที่ตรงกันข้ามกันสองประการ ทำให้รู้สึกเหมือนกำลังขับไล่กันและกัน ระหว่างทางมีเสียงการต่อสู้ดังขึ้น อีเฉินส่งสัญญาณไปหาไต้อิ๋งและทั้งสองก็รีบเคลื่อนที่ไปตามเสียงอย่างรวดเร็ว
.
พวกเขาเห็นนักเรียนสองกลุ่มกำลังต่อสู้กัน บริเวณนั้นยังมีนักเรียนอยู่เกือบยี่สิบคน
.
เมื่อมีคนตายก็จะจางหายไป เลยไม่รู้ว่าในศึกครั้งนี้มีคนตายไปแล้วกี่คน แต่เกือบทั้งหมดข้างหน้าเขามีคะแนนการต่อสู้บนหัว ถ้าดูจากคะแนนก็พอคาดเดาได้ว่าผ่านการต่อสู้มาอย่างดุเดือด
.
ยี่สิบคนนี้มีการแบ่งฝ่ายกันอย่างชัดเจน ในด้านซ้ายจำนวนคนน่าจะน้อยกว่าอย่างชัดเจน แต่ละคนมีผ้าผูกติดอยู่ที่ข้อมือ ในหมู่พวกเขา เด็กผู้หญิงที่ยืนอยู่ในตำแหน่งตรงกลางที่สุด เธอถือคทาในมือของเธอ ที่ด้านบนสุดของคทาเป็นแหวนทองคำ และปล่อยแสงเหมือนดวงดาวเป็นครั้งคราว เพื่อนร่วมทีมอีกหกคนในขอบเขต ถูกแสงดาวเชื่อมต่อถึงกันทั้งหมด
.
"ทางด้านขวา นักเรียนชายที่ยืนอยู่ด้านหน้าสุดส่งเสียงคำราม ผมสีแดงของเขาตั้งตรงขึ้น กระแสลมปราณที่ลุกเป็นไฟ พวยพุ่งออกมาจากตัวของเขาทันที วงแหวนวิญญาณห้าวง ส่องสว่างขึ้นบนตัวเขาแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ในมือของเขาถือดาบ ยาว1.5เมตร และมีกระแสลมปราณที่ลุกเป็นไฟไหลเวียนอยู่บริเวณดาบ แหวนวิญญาณที่ห้าของเขาส่องสว่างขึ้น แหวนวิญญาณหมื่นปี ทำให้ร่างกายของเขากลายเป็นสีแดงเข้ม
.
เพื่อหลบซ่อนตัว อีเฉินและไต้อิ๋งได้ถอดปีกออกและเฝ้าสังเกตการณ์อยู่บนยอดไม้ด้วยกัน
.
"นี่น่าจะเป็นจิตวิญญาณการต่อสู้ที่คล้ายกับราชสีห์เพลิงคลั่ง ความสามารถวิญญาณที่ห้าเป็นองค์ประกอบธาตุไฟ เป็นทักษะหมื่นปีที่แข็งแกร่งมาก! อุณหภูมิสูงมากจนเราสัมผัสได้" อีเฉินพูดกับไต้อิ๋งที่อยู่ข้างๆ และในขณะเดียวกันเขาก็เหลือบไปมองดาบที่อยู่ด้านหลังของเธอ
.
ความตื่นเต้นที่แสดงออกจากแววตาของไต้อิ๋ง แสดงถึงความกระตือรือร้นที่ต้องการเข้าร่วมการต่อสู้นี้เป็นอย่างมาก
.
"อย่าหุนหันพลันแล่น! คนเยอะเกินไป เราไม่สามารถเอาชนะได้เมื่อถูกล้อมโดยคนมากกว่ายี่สิบ คน" อีเฉินรีบเตือนเธอ
.
“ฉันรู้” ไต้อิ๋งพูดอย่างเคร่งขรึม
.
เด็กชายรูปร่างใหญ่เดินออกมา กระแสลมปราณบนร่างของเขาก็ปะทุขึ้นอย่างรุนแรงและพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา : "เยว่เสี่ยวจิ่ว ยอมรับความพ่ายแพ้เถอะ พวกคุณเหลือแค่ไม่กี่คน " คุณป้องกันได้แค่ชั่วคราว แต่ป้องกันตลอดไปไม่ได้ แค่จำนวนคนพวกคุณก็พ่ายแพ้แล้ว
.
ข้างเขามีคน สิบสองคน และอยู่รอบนอกอีกสี่คนที่ไม่ได้เข้าร่วมการต่อสู้ พวกเขามีหน้าที่เฝ้าระวัง และป้องกันทีมเจ็ดคนนี้จากการหลบหนี
.
หญิงสาวที่ชื่อ เยว่เสี่ยวจิ่ว เป็นแกนหลักของทีมฝ่ายตรงข้าม เธอถือคทาดวงดาวในมือ และถอนหายใจอย่างเย็นชา : "ฟู่ซินอวี่ คุณคิดว่าคุณสามารถเอาชนะฉันได้จริงๆหรือ? " เธอมีแหวนวิญญาณห้าวงที่ส่องประกายอยู่บนตัวของเธอ แต่เพื่อนร่วมทีมของเธอทั้งหกคนที่อยู่รอบๆ ล้วนเป็นปรมาจารย์วิญญาณสี่วงแหวน
.
บรรดานักเรียนในระดับชั้นปีที่หนึ่ง การที่มีวงแหวนห้าวงคือการดำรงอยู่สูงสุด นี่คือสิ่งที่เมื่อพันปีก่อนยังไม่สามารถทำได้ แต่จากวิวัฒนาการของทวีปโต้วหลัว ทำให้การฝึกฝนในปัจจุบันนั้นง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก
.
ฟู่ซินอวี่ถือดาบในมือของเขา ข้างหลังของเขามีอีกสองคนตามมา ทั้งคู่มีวงแหวนวิญญาณห้าวงเหมือนกัน
.
ไม่เพียงแต่พวกเขาจะมีคนจำนวนมากเท่านั้น แต่ยังมีวิญญาจารย์ห้าวงแหวนอยู่ถึงสามคน ในแง่ของความแข็งแกร่งโดยรวม พวกเขาก็สามารถบดขยี้ศัตรูของพวกเขาได้แล้ว ส่วนฝ่ายตรงข้าม เยว่เสี่ยวจิ่วนั้นแตกต่างกัน ห่วงโซ่ดาราของเธอสามารถเชื่อมโยงพลังระหว่างเธอและเพื่อนของเธอได้ เพื่อช่วยเสริมทั้งด้านการโจมตีและป้องกัน
.
ตอนนี้สนามสอบได้เริ่มหดตัวลงแล้ว ไม่สามารถรอช้าได้อีกต่อไป สถานที่นี้อยู่ใกล้ขอบมาก และเมื่อสนามสอบหดตัว พวกเขาจำเป็นต้องยอมแพ้การต่อสู้เบื้องหน้าเขา แต่พวกเขาไม่ต้องการละทิ้งเจ็ดคะแนนข้างหน้านี้
.
ไม่ว่าห่วงโซ่ดาราจะแข็งแกร่งขนาดไหนมันก็ยังมีขีดจำกัด อีกหกคนที่เชื่อมต่อกับเธอมีระดับการฝึกฝนเพียงสี่วงแหวนเท่านั้น ดังนั้นความแข็งแกร่งโดยรวมของทั้งสองฝ่ายจึงมีความแตกต่างกันมากเกินไป อันที่จริงสำหรับทีมของเยว่เสี่ยวจิ่ว ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดคือการที่พวกเขาไม่สามารถหลบหนีได้ ถ้าพยายามขัดขืนหรือวิ่งหนี ห่วงโซ่ดาราอาจขาดหรือไม่ก็อาจจะทำให้พังเร็วขึ้นเท่านั้น ด้วยความฉลาดของเยว่เสี่ยวจิ่วเธอจึงไม่เคลื่อนไหว แต่เห็นได้ชัดว่าสถานการณ์ปัจจุบันของเธอเลวร้ายมาก
.
นักเรียนระดับราชาวิญญาณห้าวงแหวนสามคนค่อยๆก้าวไปข้างหน้าอย่างช้าๆ และดาบของฟู่ซินอวี่ ที่เปล่งประกายด้วยเปลวเพลิงได้ปรากฏขึ้น ในระดับชั้นปีที่หนึ่ง แม้ว่าเขาจะไม่ได้แข็งแกร่งที่สุด แต่ก็อยู่ในระดับแถวหน้าอย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้นเป็นไปไม่ได้ที่หลังจากการสอบเริ่มไม่นาน เขาจะสังหารคนนับสิบได้ในเวลาอันสั้น
.
"จะเป็นไปได้ไหม ถ้าเรายินดีที่จะร่วมมือกับคุณ" เยว่เสี่ยวจิ่วกล่าว
.
ฟู่ซินอวี่เหลือบมองเยว่เสี่ยวจิ่วก่อนจะพูดว่า " คุณสามารถเข้าร่วมได้ แต่คนอื่นๆในกลุ่มของคุณไม่ได้"
.
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขายังจำความสามารถของเยว่เสี่ยวจิ่วได้เป็นอย่างดี เธอไม่เพียงแต่เป็นราชาวิญญาณที่มีห้าวงแหวน แต่ห่วงโซ่ดาราของเธอสามารถเพิ่มความสามารถในการต่อสู้แบบทีมได้อย่างมาก
.
อย่างไรก็ตามคนอื่นๆในทีมของเยว่เสี่ยวจิ่ว ความสามารถไม่ได้น่าดึงดูดมากนัก ถ้าเพิ่มคนจำนวนมากเข้ามาในทีม จะเกิดอะไรขึ้นถ้าฝ่ายตรงข้ามคิดกบฏกะทันหัน เพราะยังไงการสอบนี้ก็อยู่ในรูปแบบเซอร์ไวเวอร์
.
เยว่เสี่ยวจิ่วขมวดคิ้วเล็กน้อยราวกับว่ากำลังคิดบางอย่าง ฟู่ซินอวี่ไม่ได้เร่งเธอในเวลานี้ ถ้าเยว่เสี่ยวจิ่วเต็มใจที่จะประนีประนอม แน่นอนว่านี่จะเป็นจุดจบที่ดี
.
"ถ้าเป็นแบบนี้..." เสียงของเยว่เสี่ยวจิ่วต่ำลงและมีอารมณ์ผิดหวังเล็กน้อย ต่อมาเธอก็เงยหน้าขึ้นมอง "..เจ้าก็ไปตายซะ!"
.
ทันใดนั้นห่วงโซ่ดาราที่เชื่อมต่อระหว่างพวกเขากับทีมก็สว่างไสวขึ้น เวลาต่อมาคทาในมือเธอก็ชูขึ้น แล้ววงแหวนวิญญาณที่สามบนร่างเขาก็เปล่งประกาย ท้องฟ้าดูเหมือนจะมืดลงในขณะนี้ ลำแสงนับไม่ถ้วนตกลงมาจากท้องฟ้า พริบตาเดียวลำแสงจำนวนมากพุ่งตรงไปยังฟู่ซินอวี่อย่างโหดเหี้ยม
.
ในขณะนี้เพื่อนร่วมทีมของเยว่เสี่ยวจิ่วทุกคนมีใบหน้าซีดลง และลมปราณในร่างกายของพวกเขาก็เบาบางลงเล็กน้อย
.
แม้ว่าฟู่ซินอวี่จะคาดเดาได้ว่าเยว่เสี่ยวจิ่วอาจจะไม่เห็นด้วย แต่เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าภายใต้สถานการณ์เช่นนี้เธอจะริเริ่มโจมตี
.
วงแหวนวิญญาณที่สองและวงแหวนวิญญาณที่สามบนร่างกายของเขาสว่างขึ้นพร้อมกับวงแหวนวิญญาณที่ห้า วงแหวนแห่งการต้านทานไฟระเบิดออกทันที แต่ถูกแสงดาว ทำให้แตกเป็นเสี่ยงๆ ความเร็วของแสงดาวนั้นเร็วเกินไป ดังนั้นฟู่ซินอวี่มีเวลาแค่ครู่เดียวเท่านั้น ที่จะใช้ดาบต้านทานการโจมตีของคู่ต่อสู้
.
ช่วงเวลาของการปะทุนี้เร็วเกินไป จนเพื่อนของฟู่ซินอวี่ตอบสนองไม่ทัน เดิมทีเขามีความสามารถในการเสริมพลังจากสมาชิกคนอื่น แต่การปรากฏของแสงดวงดาวนี้มีพลังมากเกินไป
.
ไต้อิ๋งซ่อนตัวอยู่ใต้เงาไม้ เขารู้สึกประหลาดใจจึงถามอีเฉินข้างๆเธอว่า : "ดูเหมือนว่าเธอจะยืมพลังของทีมด้วยทักษะการต่อสู้และหลอมรวมวิญญาณ รวมเจ็ดเป็นหนึ่งเดียวใช่ไหม?"

-----------------------------------------------------------------------------------------




.
Share:

0 comments:

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็น

👨‍🏫นักแต่งนิยายจีน

A B C D E F G H I
J K L M N O P Q R
S T U V W X Y Z

คลังบทความของบล็อก

บทความล่าสุด

หน่วยเทพล่าอสูร : 💠ผนึกต้องห้าม