Douluo Dalu 4.5 : ตอนที่4 อาจารย์กลุ่มแรก

ตอนที่4 : อาจารย์กลุ่มแรก


ต่างจากไต้อิ๋งในอีกด้านหนึ่ง อีเฉินดูมีสีหน้าเจ็บปวดเล็กน้อย เขาขมวดคิ้วและรู้สึกถึงเลือดที่เดือดพล่าน และการเดือดนี้ก็เป็นการระเบิดคล้ายกับจะบ้าคลั่ง สายเลือดของเขามีความพิเศษมาก เนื่องจากเหตุผลพิเศษบางประการของพ่อแม่ เมื่อเขาเกิดมาสายเลือดของเขาจึงกลายพันธุ์ ถ้าไม่ใช่เพราะเขาเกิดในสถานที่พิเศษ เขาอาจจะไม่รอดชีวิตด้วยซ้ำ
.
สายเลือดของเขาได้รับการวิเคราะห์โดยผู้มีอำนาจที่แข็งแกร่งบนแดนเทพ แต่ถึงอย่างนั้น เหล่าผู้แข็งแกร่งก็ไม่สามารถตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง พวกเขาทำได้เพียงแค่เฝ้าดูการเติบโตของเขาไปทีละขั้นเท่านั้น
.
ในเวลานี้ แสงสีม่วงผลิบานขึ้นในดวงตาสีม่วงของเขา ผมสั้นสีม่วงเข้มของเขาก็มีแสงสีม่วงเช่นกัน มีรัศมีที่แตกต่างกันจากรูปลักษณ์ที่หล่อเหลาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็เปล่งประกายออกมา มันเป็นความรู้สึกกดขี่ที่รุนแรงมาก ราวกับว่ากำลังมีสิ่งที่น่าสะพรึงกลัว กำลังจะหลุดออกมาจากร่างกายของเขา แม้แต่ในสายตาของเขา ก็ได้แสดงความบ้าคลั่งออกมาเล็กน้อย อารมณ์หลายอย่างเช่นความเย็นชาในความแข็งแกร่งปะทุอยู่ตลอดเวลา ลมหายใจที่แผ่ขยายออกมาจากเขา กับลมหายใจที่นุ่มนวลและอ่อนโยนที่ปลดปล่อยออกมาจากร่างของไต้อิ๋งที่ยืนข้างๆเขา หากเปรียบเทียบกันแล้วจะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน
.
ไต้อิ๋งสังเกตุเห็นการเปลี่ยนแปลงของเขาเช่นกัน อันที่จริงนักเรียนทุกคนในปัจจุบันก็มีการเปลี่ยนแปลง ไปในทิศทางที่ต่างกัน แต่การเปลี่ยนแปลงของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
.
แต่ทั้งสองคน มีการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนที่สุดในพื้นที่นี้อย่างไม่ต้องสงสัย นักเรียนที่อยู่ด้านหลังก็สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงนี้ได้อย่างชัดเจน
.
ในระยะไกลฮั่วอวี่เฮ่าและอีจื่นเฉิน ยืนอยู่เคียงข้างกัน อีจื่อเฉินยืนอยู่ข้างหลังเขาไปครึ่งก้าว ในสายตาดูมีความกังวลเล็กน้อย
.
"อย่ากังวลไปเลย จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับลูกของคุณ เราทุกคนควรมองโลกในแง่ดีเอาไว้ ฮั่วอวี่เฮ่ากล่าวด้วยรอยยิ้ม
.
หัวใจของอีจื่นเฉินเต้นแรง : "หัวหน้า คุณพูดจริงใช่ไหม?"
.
ฮั่วอวี่เฮ่ายิ้มอย่างขมขื่น : "อย่าเรียกฉันว่าหัวหน้า คุณคิดว่าฉันเต็มใจไหม พวกคุณนี่จู้จี้จุกจิกจริงๆ ..."
.
ใช่แล้ว ไม่มีใครรู้ว่าคนที่ยืนรวมอยู่กับพ่อแม่คนอื่นและรอให้ลูกของเขาสอบเสร็จ คือราชันเทพสูงสุด องค์ปัจจุบันของคณะกรรมการอาณาจักรเทพ ของอาณาจักรเทพโต้วหลัว และเขายังเป็นที่รู้จักกันในนาม "ฮั่วอวี่เฮ่า ราชันเทพเจ้าอารมณ์"
.
เนื่องจากจางกงเว่ยราชันเทพแห่งแสงได้ลาออกจากตำแหน่งนี้ เหล่าทวยเทพและราชันเทพองค์อื่นๆ ได้ผลักดันเขาให้ขึ้นสู่ตำแหน่งนี้ เขาทำได้เพียงนั่งในตำแหน่งนี้อย่างไม่เต็มใจ และเขาก็ไม่สามารถสลัดความรับผิดชอบในตำแหน่งนี้ไปได้ เพราะอย่างน้อยก็หนีความจริงไม่พ้น ว่าเขาคือลูกเขยของถังซาน นี่จึงเป็นหน้าที่ ที่เขาหลีกเลี่ยงไม่ได้
.
แม้ว่าจะมีน้องชายของภรรยาเขา ซึ่งเป็นบุตรแท้ๆของถังซาน แต่ก็เป็นเทพแห่งการดับสูญ แล้วเทพแห่งการดับสูญจะดำรงตำแหน่งราชันเทพสูงสุดได้อย่างไร สุดท้ายก็มีแค่เขาเทพเจ้าอารมณ์เท่านั้นที่ต้องแบกรับหน้าที่นี้
.
หากไม่ใช่เพราะถังอู่หลินบอกว่าโรงเรียนเชร็คเป็นสถานที่น่าสนใจ และเสนอให้เหล่าทวยเทพ ได้มาลองเป็นอาจารย์สอนที่นี่ ป่านนี้เหล่าราชันเทพหลายคนเกรงว่าจะได้เดินทางไปทั่วจักรวาลแล้ว ดังนั้นการลงทะเบียนโรงเรียนเชร็คในปีนี้จึงแตกต่างกันมาก เพราะปีนี้มีกลุ่มอาจารย์ที่เป็นเหล่าราชันเทพถึงสี่องค์ ที่ลงมาเพื่อเป็นอาจารย์และก่อตั้งแผนกของตัวเอง
.
ฮั่วอวี่เฮ่ามาคราวนี้ หนึ่งคือพาลูกสาวของเขามาสมัครเรียน อีกอย่างหนึ่งก็คือการมาเฝ้าดูราชันเทพที่มาเป็นอาจารย์ที่โรงเรียนเชร็ค ว่าจะมีผลเป็นอย่างไร?
.
แม้แต่ในอาณาจักรเทพ ราชันเทพเหล่านี้ยังไม่เคยยอมรับศิษย์ แต่สำหรับสถานที่แห่งนี้ ที่สามารถฝึกฝนเทพสมุทรถังซาน เทพอารมณ์ฮั่วอวี่เฮ่า เทพธิดาผีเสื้อมังกรถังอู่ถง เทพดับสูญถังอู่หลิน เทพธิดาแห่งชีวิตกู่เยว่น่า เทพมังกรถังเซวียนอวี่ มันทำให้พวกเขาให้ความสนใจเป็นอย่างมาก อาจกล่าวได้ว่าครอบครัวถังซานทั้งสามรุ่นรวมทั้งเสียวอู่ภรรยาของถังซาน ก็ล้วนถูกฝึกฝนโดยโรงเรียนเชร็ค แม้แต่เหล่าทวยเทพหลายๆคน ก็ยังถือว่าสถานที่นี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
.
แล้วสถานที่ดังกล่าวนี้ จะไม่ทำให้ผู้คนมากมายหลงใหลได้อย่างไร
.
ดังนั้น หลังจากการแข่งขันที่ดุเดือด สี่คนแรกของราชันเทพที่ได้ลงมาก็คือพวกเขาทั้งสี่คนในปัจจุบัน
.
ในพลังระดับราชันเทพ ผลกระทบที่มีต่อโลกทั้งใบนั้นใหญ่มาก แม้ว่าดาวโต้วหลัวจะมีวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่องและแข็งแกร่งกว่าเดิมมาก แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะมีราชันเทพอยู่ในโลกมากเกินไป อย่างน้อยตอนนี้ก็ยังไม่สามารถทำได้ ดังนั้นในเบื้องต้นพวกเขาจึงสามารถลงมาได้เพียงสี่คนก่อนเท่านั้น ส่วนคนอื่นๆต้องรอจนกว่าจะถึงวาระ แน่นอนว่าฮั่วอวี่เฮ่าและถังอู่หลินก็กำลังคิดค้นหาวิธีเช่นกัน เพื่อให้เหล่าราชันเทพคนอื่นได้เข้าร่วม
.
กว่าจะค้นหาสิ่งที่ทำให้เหล่าราชันเทพสนใจ และรั้งพวกเขาให้อยู่ไม่ใช่เรื่องง่าย!
.
เพลง "เขาสูงน้ำไหล" ค่อยๆจางหายไป เมื่อเสียงกู่ฉินสิ้นสุดลงในที่สุด มือของหลันเมิ่งฉินก็ค่อยๆกดลงที่สายพิณ และลบเสียงสุดท้ายออกไป
.
ในขณะนี้มีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างเกิดขึ้นที่จัตุรัส และนักเรียนทุกคนได้ปรากฏว่ามีแสงสว่างจางๆ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นความสามารถเฉพาะบุคคล ของพวกเขา ต่างที่มา ต่างเผ่าพันธุ์ ความสามารถก็แตกต่างกันไป แต่พวกเขาทั้งหมดล้วนมีลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง
.
ในเพลง "เขาสูงน้ำไหล" พวกเขาทั้งหมดมีระดับการรับรู้ที่ต่างกัน ถ้าพลังเข้ากันได้ ก็เป็นการเสริมพลัง แต่สำหรับผู้ที่มีคุณลักษณะต่างกัน ก็จะเป็นการกระตุ้นพลัง
.
แทนที่จะบอกว่านี่คือการประเมิน จะเป็นการดีกว่า ที่จะบอกว่านี่คือโอกาสในการพัฒนาตัวเองสำหรับนักเรียน
.
หลันเมิ่งฉินเก็บกู่ฉินฟีนิกซ์มรกตของเขา และรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่เย็นชาของเธอ เพราะเธอสามารถสัมผัสได้ว่าความสามารถโดยรวมของกลุ่มนักเรียนใหม่ในปีนี้ ดีกว่าปีก่อนๆมาก
.
นักเรียนมีความเข้าใจในดนตรีอย่างลึกซึ้ง ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ดีมากอย่างแน่นอน
.
ในเวลานี้ทั่วทั้งโรงเรียนเชร็คเงียบลง และทุกคนต่างรอคอยกันอย่างเงียบสงบ ในบรรดานักเรียนเหล่านี้ มันเป็นความจริงที่ว่า มีบางคนไม่สามารถห้ามการควบคุมของร่างกายของเขา และได้เคลื่อนไหวออกไปก่อนหน้านี้
.
แต่โรงเรียนเชร็คก็คือโรงเรียนเชร็ค แม้ว่าคุณจะถูกคัดออก แต่เมื่อคุณมาที่โรงเรียนเชร็คเพื่อร่วมประเมิน คุณก็จะได้รับบางอย่างกลับไปเช่นกัน
.
นักเรียนสามพันกว่าคนต่างก็มีท่าทาง การแสดงออกที่แตกต่างกันออกไป บางคนหน้าซีด บางคนนั่งยองๆเหม่อลอยราวกับมีแต่ความว่างเปล่าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็มีบางคนเช่น ไต้อิ๋ง ที่กำลังเข้าสู่สภาวะทำสมาธิ และดูเหมือนเธอจะรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่าง
.
อีเฉินตื่นขึ้นแทบจะทันทีที่เสียงกู่ฉินหยุดลง แต่ความรู้สึกเย็นยะเยือกยังคงแผ่กระจายไปทั่วร่างกายของเขาที่ระเบิดออกมาจากร่างกายเขาจากข้างใน การระเบิดของพลังงานที่ผันผวนแปลกๆ ทำให้เขารู้สึกเพียงว่าเลือดกำลังเดือด แต่ประเด็นคือเลือดที่เดือดนั้นมันไม่ร้อน แต่เย็นอย่างน่าประหลาด แรงสั่นสะเทือนอันเย็นยะเยือกนี้ทำให้เหงื่อในร่างกายของเขา หลั่งใหลออกมา เขาเหงื่อออกมาก ใบหน้าเขาก็ยังดูซีดลงเล็กน้อย
.
เขาหันศรีษะมองไปรอบๆ ก็สังเกตุเห็นนักเรียนคนอื่นที่มีท่าทางพฤติกรรมที่ค่อนข้างต่างไปจากเดิม แต่มีจำนวนที่ค่อนข้างมาก ที่ยังไม่ตื่นและยังจมอยู่กับบทเพลงก่อนหน้า
.
นี่ฉันผ่านหรือไม่ผ่าน อีเฉินอดไม่ได้ที่จะมึนงง ในขณะเดียวกันความรู้สึกเย็นชาในร่างกายของเขาก็เปลี่ยนไป เมื่อเลือดเดือดอย่างค่อยเป็นค่อยไป เขาก็ต้องประหลาดใจที่พบว่าร่างกายของเขาร้อนขึ้น ตอนแรกมันยังอบอุ่น แต่ค่อยๆร้อนขึ้น ผมสั้นๆของเขาก็เริ่มเปล่งรัศมีสีม่วงจางๆ กระเพื่อมเป็นสองส่วน
.
"ไม่เลว.. มันสุดยอดจริงๆ!" ฮั่วอวี่เฮ่ายิ้มและพูดกับอีจื่อเฉินที่อยู่ข้างๆเขาว่า "เลือดของเด็กคนนี้ไม่ผิดนัก ถ้าจะบอกว่ามีเอกลักษณ์ แต่ฉันไม่แน่ใจว่ามันเป็นหนึ่งเดียวในจักรวาลหรือเปล่า ถ้าใช่ล่ะก็ มันจะเป็นเรื่องที่วิเศษมากๆ "
.
อีจื่อเฉินยิ้มและกล่าวว่า : "มันไม่น่าจะเป็นหนึ่งเดียวในจักรวาล เพราะมีเพียงสายเลือดของเทพมังกรเท่านั้นที่สามารถมีพรสวรรค์แบบนั้นได้ อย่างไรก็ตามสายเลือดของเด็กคนนี้มีความพิเศษมากจริงๆ"
.
สุดท้ายแล้วอีจื่อเฉินและหลิงจื่อเฉินก็แต่งงานกัน และพวกเขาก็ได้รับพรในสายเลือดอย่างไม่ต้องสงสัย ในตอนเริ่มต้นสู้กับอาณาจักรคริมสัน ทั้งสองคนได้เลือกที่จะเสียสละตัวเองเป็น กลายเป็นอาวุธโจมตีใส่อาณาจักรเทพคริมสัน หลังจากการต่อสู้จบลงพวกเขาทั้งคู่ได้รับการฟื้นชีพโดยอาณาจักรเทพ
.
นี่เป็นครั้งที่สองแล้วสำหรับหลิงจื่อเฉินที่ได้รับการคืนชีพ โดยเมื่อหมื่นปีก่อนเธอก็ใช้ตัวเองเป็นระเบิดปืนใหญ่มนุษย์ เข้าโจมตีระนาบห้วงลึก และได้รับการคืนชีพในเวลาต่อมา พันปีก่อนเธอกลับมาเจอถังอู่หลินเทพเจ้าแห่งการดับสูญอีกครั้ง และเธอก็ได้รับการคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง นั่นทำให้เธอรู้สึกหดหู่ใจเป็นอย่างมาก

-----------------------------------------------------------------------------------------




Share:

0 comments:

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็น

👨‍🏫นักแต่งนิยายจีน

A B C D E F G H I
J K L M N O P Q R
S T U V W X Y Z

คลังบทความของบล็อก

บทความล่าสุด

หน่วยเทพล่าอสูร : 💠ผนึกต้องห้าม