ตอนที่20 การทดสอบอย่างต่อเนื่อง |
.... ทะเลสาบเทพสมุทร . ร่างของไต้อิ๋งทุกส่วน แช่อยู่ในน้้ำทะเลสาบเทพสมุทร ซึ่งแช่อยู่ในสภาวะของการฝึกสมาธิ คิ้วเธอขมวดเล็กน้อย ส่วนร่างกายของเธอก็กำลังสั่น เห็นได้ชัด ว่านี่เป็นอาการของความเจ็บปวดอย่างรุนแรง วันนี้เป็นวันที่เจ็ดแล้วของการฝึกฝนเคล็ดวิชากำเนิดชีวิตของเธอ . เคล็ดวิชากำเนิดชีวิตและเคล็ดวิชาเสวียนเทียน ที่เธอฝึกฝนมาก่อนหน้านี้ มีผลเหมือนกันในหลายๆส่วน แต่พูดถึงเคล็ดวิชาเสวียนเทียน จะมีความเป็นกลางและสงบ ส่วนเคล็ดวิชาความลับของชีวิตจะเน้นการกระตุ้นพละกำลัง ซึ่งมันตรงข้ามกัน . ดังนั้นเมื่อเธอเริ่มฝึกเคล็ดวิชากำเนิดชีวิตครั้งแรก เธอค้นพบว่า เมื่อฝึกเคล็ดวิชากำเนิดชีวิต พลังชีวิตที่เธอได้รับจะขัดแย้งกับเคล็ดวิชาเสวียนเทียน ทำให้เธอต้องสร้างช่องทางลมปราณของพลังขึ้นมาใหม่ โดยรวมทั้งสองเป็นหนึ่งเดียว . กระบวนการนี้ไม่เพียงแต่ยากเท่านั้น แต่มันยังเจ็บปวดมากอีกด้วย โดยเฉพาะเส้นทางการฝึกฝน บางเส้นเป็นทางใหม่ และมีบางเส้นทางที่ซ้อนทับกัน ทำให้การฝึกฝนของเธอยากขึ้นไปอีก การปะทะกันของพลังทั้งสองส่งผลสะท้อนต่อเธอในระดับที่ต่างกันไป . เธอฝึกเคล็ดวิชาเสวียนเทียนมาเป็นเวลานานแล้ว พลังของวิชาเสวียนเทียนจึงแข็งแกร่ง มีรากฐานมั่นคง แต่พลังของเคล็ดวิชากำเนิดชีวิตมีคุณสมบัติพิเศษของความไม่มีที่สิ้นสุด ทำให้ส่งผลกระทบต่อพลังวิญญาณของเคล็ดวิชาเสวียนเทียนอย่างต่อเนื่อง ทำให้เธอเกือบธาตุไฟเข้าแทรกหลายครั้ง . ตอนนี้อาไตปรากฏตัวอยู่ข้างๆเธอ เขาไม่ได้บอกเธอว่าควรว่าจะบรรเทาอาการทรมานนี้ได้อย่างไร แต่เขาให้เธอฝึกฝนต่อไป . เสวียนเยว่ยืนพิงไหล่ของอาไต : "คุณจะไม่สอนเธอจริงๆเหรอ ว่าต้องทำอย่างไร ยังไงเธอก็ยังเด็ก จะคลำหาทางเองได้หรือ? " . อาไตยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า : "ฉันไม่ได้คาดหวังว่าเธอจะพบวิธีทางที่ถูกต้อง ที่จะทำให้พลังทั้งสองผสานกันได้อย่างแท้จริง ถึงแม้จะเป็นเรา การทำเช่นนี้ก็ไม่ง่ายเลย ยิ่งไปกว่านั้น เธอก็ยังเด็ก" . “ถ้าอย่างนั้นทำไมคุณยังคงกำหนดการประเมินของเธอเป็นเวลาถึง 49วัน?” เสวียนเยว่กล่าวด้วยความประหลาดใจ . อาไตยิ้มและกล่าวว่า : นี่ไม่ใช่การทดสอบความสามารถของเธอ แต่เป็นการทดสอบหัวใจของเธอ หากเธอสามารถยึดมั่น และยืนหยัดได้จนวินาทีสุดท้าย เธอก็มีคุณสมบัติที่จะได้เป็นศิษย์ผู้บุกเบิกของแผนกชีวิตและความตายของฉัน . เสวียนเยว่ตระหนักได้ทันทีและหันไปมองหน้าอาไต : "พวกคุณมันใจร้ายเกินไปแล้ว ฮึ!" . อาไตพูดอย่างช่วยไม่ได้ว่า : "ฉันไปใจร้ายกับคุณตั้งแต่เมื่อไร? ถ้าเป็นคุณ ฉันคงทนไม่ได้ ที่จะให้คุณต้องแบกรับมันไว้อย่างแน่นอน" . เสวียนเยว่เหลือบมองอาไต :"คุณควรบอก ฮั่วอวี่เฮ่า เกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาจะคิดยังไง ที่คุณทำกับลูกสาวของเขาแบบนี้" . อาไตยิ้มและส่ายหัว : "มันเป็นเพราะเขาทำเองไม่ได้ นั่นเป็นเหตุผลที่เขาส่งลูกสาวของเขา มาที่โรงเรียนเชร็ค เพราะเขารู้ว่าเขาไม่สามารถโหดร้ายกับลูกของเขาได้ " . เสวียนเยว่กล่าวว่า : "โลกของผู้ชายอย่างพวกคุณช่างซับซ้อนจริงๆ แล้วคุณต้องการบอกเขาถึงสถานการณ์ปัจจุบันของอิ๋งอิ๋งหรือไม่?" . "ไม่ล่ะ เกิดเขารู้แล้วโมโห รีบมารับลูกเขากลับไป แล้วอาณาจักรเทพจะทำยังไง อาณาจักรเทพยังต้องการใครสักคน เพื่อเป็นผู้ดูแล และตอนนี้เขาก็ได้รับเลือกให้ทำหน้าที่นั้นอยู่ หรือคุณต้องการให้ฉันดูแลกิจการของอาณาจักรเทพ? ถ้าคุณต้องการ ฉันก็สามารถทำได้ แค่ได้อยู่กับคุณ” . ลืมมันไปเถอะ ลืมมันไปเถอะ ฉันอยู่ในอาณาจักรเทพ มานานมากพอแล้ว แม้ว่าที่นี่จะไม่มีวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ แต่ที่นี่ก็มีสถานที่ ที่น่าสนใจมากมาย แค่ที่เมืองเชร็ค ก็เพียงพอที่จะทำให้ฉันสดชื่นไปอีกนาน แต่ไต้อิ๋งยังต้องฝึกฝนอย่างหนัก ถึงสี่สิบเก้าวัน . ไต้อิ๋งย่อมไม่ได้ยินสิ่งที่พวกเขากำลังพูด แม้รูปลักษณ์ของเธอจะดูมีเสน่ห์ แต่ก็มีบุคลิกของความแข็งแกร่ง เช่นเดียวกับฮั่วอวี่เฮ่าในตอนนั้น ยิ่งเผชิญกับปัญหามากเท่าไหร่ ก็ยิ่งก้าวหน้าได้มาก เธอมีความเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าเธอสามารถทำได้แน่นอน! . พลังเสวียนเทียนและพลังกำเนิดชีวิตยังคงปะทะกัน และขัดขวางการพัฒนาของเธอ . ช่วงเจ็ดวันมานี้ไต้อิ๋งลองมาแล้วหลายวิธี เช่นฝึกแต่วิชากำเนิดชีวิต โดยไม่กังวลเกี่ยวกับวิชาเสวียนเทียน อย่างไรก็ตามวิชาเสวียนเทียนมันมาพร้อมเธอโดยธรรมชาติ พลังที่เกิดจากการฝึกวิชากำเนิดชีวิต จึงได้รับผลกระทบไปโดยปริยาย . การใช้พลังเสวียนเทียนเพื่อเป็นตัวนำของพลังกำเนิดชีวิตก็ไม่ได้ผลดีเช่นกัน แม้ว่าพลังชีวิตจะส่งผลต่อวิชาเสวียนเทียน แต่วิชากำเนิดชีวิตเองก็เป็นเทคนิคที่เปลี่ยนพละกำลังให้มีประสิทธิภาพในการต่อสู้และเสริมความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง แม้ทั้งสองพลังจะใกล้เคียงกันแต่ก็ขัดแย้งกัน . พลังที่ไม่สิ้นสุดของวิชากำเนิดชีวิต มักจะรบกวนพลังวิญญาณของเธอ ทำให้พลังวิญญาณของเธอไม่มั่นคง . เธอลองมาหลายวิธีแล้วแต่ไม่ได้ผล เมื่อใดก็ตามที่เธอหงุดหงิด เธอก็เสี่ยงที่ธาตุไฟจะเข้าแทรก . มันไม่ได้ผล? . ไต้อิ๋งอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวล แม้เธอไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหน แต่เธอได้ฝึกฝนมานานหลายปีแล้ว และเธอเข้าใจว่าในกระบวนการฝึกฝน เวลามักจะผ่านไปเร็วมาก . ทำอย่างไรดี? . ฉันควรทำอย่างไรเพื่อให้วิชาเสวียนเทียนและวิชากำเนิดชีวิตไม่ขัดแย้งกันอีกต่อไป หรือว่าฉันควรยกเลิกวิชาเสวียนเทียนโดยสิ้นเชิง? แต่ถ้ายกเลิกก็คงต้องตัดทิ้งทั้งหมด มันจะดีหรือไม่? ดูเหมือนว่าฉันไม่สามารถยกเลิกวิชาเสวียนเทียนได้! . นอกจากนี้วิชาเสวียนเทียนยังเป็นวิชาของโลกนี้ ที่สร้างขึ้นโดยปู่ของเขาเอง และมันยังช่วยฝึกฝนวิญญาจารย์ระดับสูงมากมาย ซึ่งข้อเท็จจริงนี้พิสูจน์แล้วว่าวิชาเสวียนเทียนเป็นวิชาระดับสูง แล้วฉันควรทำอย่างไร หากฉันไม่ต้องการที่จะใช้ประโยชน์จากมัน? . อารมณ์หงุดหงิดของเธอทำให้เธอรับรู้ถึงพลังที่โกลาหล ซึ่งมาจากพลังเสวียนเทียนและพลังกำเนิดชีวิต . แต่แล้วก็มีปัญหา พลังในกระแสน้ำวน ทำให้พลังวิญญาณของเธอไม่เสถียรและหมดสิ้นลง เส้นลมปราณในร่างกายพองตัว ร่างกายของเธอก็สั่นอย่างรุนแรง ร่างกายของเธอวูบวาบ ทันใดนั้นอาไตก็มาอยู่ข้างๆไต้อิ๋งในทันที . ในฐานะราชันเทพเจ้า การรับรู้ของเขาเฉียบแหลมมาก ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่ไต้อิ๋งเกิดปัญหา เขาก็จะสัมผัส และรับรู้ได้ในทันที . มือขวาของอาไตกดลงบนหลังของไต้อิ๋ง พลังงานชีวิตที่อ่อนนุ่มไหลเข้าสู่ร่างของไต้อิ๋ง ปกป้องเส้นลมปราณของเธอเอาไว้ และให้เธอได้ระบายพลังที่โกลาหนทั้งสองชนิดในร่างของเธอ . อาไตไม่ได้ให้คำแนะนำใดๆแก่เธอ เพียงแค่ช่วยแก้วิกฤติของเธอจากการจะถูกธาตุไฟเข้าแทรก ความเจ็บปวดของร่างกายเริ่มลดลง แต่หัวใจของเธอก็เต็มไปด้วยความผิดหวังอีกครั้ง นี่เป็นอีกครั้ง ที่เธอก็ยังทำไม่สำเร็จ . พลังกำเนิดชีวิตและพลังเสวียนเทียนกลับสู่จุดดั้งเดิมของมัน . เมื่อเริ่มฝึกวิชาเสวียนเทียน พลังวิญญาณทั้งหมดก็กระจุกรวมกันที่จุดตันเถียนโดยธรรมชาติ และพลังกำเนิดชีวิตก็มาบรรจบกันที่จุดตันเถียนในสภาวะของการฝึกปกติ นี่คือสาเหตุที่พลังทั้งสองขัดแย้งกัน . ในเวลานี้เมื่อพลังทั้งสองแยกจากกัน อาไตทำให้พลังเสวียนเทียนกลับเข้าที่จุดตันเถียน และปล่อยให้พลังกำเนิดชีวิตกระจายไปตามแขนขาของเธอ . ท้ายที่สุดแล้วเขาก็พึ่งจะได้ฝึกพลังกำเนิดชีวิต มันจึงมีพลังค่อนข้างอ่อนแอ และก็เป็นไปไม่ได้เลยที่มันจะเข้าควบคุมอาณาเขตของพลังเสวียนเทียน . ในครั้งนี้ไม่รู้ว่าเป็นเพราะผลการฝึกมาตลอดทั้งเจ็ดวัน ควบคู่ไปกับการช่วยเหลือจากน้ำในทะเลสาบเทพสมุทรหรือป่าว พลังงานชีวิตที่กระจายไปที่แขน ขาของเธอ ทำให้ไต้อิงรู้สึกสบายอย่างอธิบายไม่ถูก พลังงานกำเนิดชีวิตที่หล่อเลี้ยงร่างกายของเธอ ดูดซับพลังงานชีวิตได้โดยตามธรรมชาติ . ขณะนี้พลังทั้งสองแยกออกจากกันโดยสิ้นเชิง แต่แน่นอนว่า ถ้าอาไตยุติการถ่ายเทพลัง พลังงานทั้งสองชนิดก็จะพัวพันกันอีกไม่ช้าก็เร็ว . อยู่ๆไต้อิ๋งก็เกิดความคิด เธอนำพลังงานชีวิตมาบรรจบกันที่หน้าอกของเธออย่างช้าๆ . เธอจำได้แม่นว่า พ่อของเธอเคยสอนว่า ในร่างกายของผู้คน มีจุดตันเถียนอยู่สามแห่งคือ ช่องท้องใต้สะดือคือส่วนล่าง หน้าอกใต้หัวใจเป็นส่วนกลาง และหน้าผากระหว่างคิ้วคือส่วนบน ----------------------------------------------------------------------------------------- |
0 comments:
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น