ตอนที่21 วังวนที่สอง |
โดยทั่วไปแล้ว จุดตันเถียนส่วนบนจะทำหน้าที่รวมพลังจิตเป็นหลัก และเมื่อเราฝึกฝนพลังวิญญาณจนถึงระดับหนึ่ง พลังวิญญาณที่ทรงพลังในจุดตันเถียนส่วนล่างจะสร้างแกนวิญญาณแรกขึ้นมา และเมื่อคุณสร้างแกนวิญญาณที่สองได้ คุณจะได้รับความสามารถบางอย่าง นั่นเป็นสัญญาณของการเข้าถึงระดับราชทินนามพรหมยุทธ์ หรือแม้แต่ อัครพรหมยุทธ์ . แต่ความแข็งแกร่งของเธอในปัจจุบัน ยังคงห่างไกลจากระดับราชทินนามพรหมยุทธ์ แต่เมื่อเธอได้นึกถึงแนวคิดเรื่องจุดตันเถียนได้ จู่ๆเธอก็มีความคิดหนึ่งเกิดขึ้น เนื่องจากพลังกำเนิดชีวิตและพลังเสวียนเทียนไม่สามารถผสานกันได้ ดังนั้นถ้านำพลังกำเนิดชีวิตไปไว้ที่จุดตันเถียนส่วนกลาง แทนที่จะไปจุดตันเถียนส่วนล่างจะได้ไหม? . แน่นอนว่าสิ่งนี้จะเปลี่ยนเส้นทางการฝึกฝนของพลังกำเนิดชีวิตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างน้อยพลังกำเนิดชีวิตในจุดตันเถียนส่วนกลาง และพลังเสวียนเทียนในจุดตันเถียนส่วนล่างจะไม่ขัดแย้งกันอีกต่อไป! . ในอนาคตก็เป็นไปได้ที่จะปรับความสัมพันธ์ของพลังทั้งสองอย่างช้าๆ เพราะท้ายที่สุดแล้วพลังทั้งสองชนิดก็ยังมีบางอย่างที่คล้ายกัน . เจ็ดวันที่ผ่านมาของการฝึนฝนพลังกำเนิดชีวิตคู่ไปกับพลังเสวียนเทียน ไต้อิ๋งรู้สึกได้ว่ามีถึงหกส่วน ของเส้นลมปราณที่พลังทับซ้อนกัน . วิชาเสวียนเทียนยังมีลักษณะบางอย่างของวิชากำเนิดชีวิตที่ไม่สิ้นสุดและเพิ่มพละกำลังด้วย แต่พละกำลังของวิชาเสวียนเทียนไม่ได้บริสุทธิ์เท่ากับพละกำลังที่เกิดจากพลังกำเนิดชีวิต แต่ก็มีลักษณะคล้ายคลึงกัน . หากมีเวลามากพอ เธอเชื่อว่าพลังทั้งสองชนิดนี้จะสามารถรวมเข้ากับร่างกายของเธอได้ . ไม่ว่าผลการฝึกฝนหลังจากการหลอมรวมจะดีขึ้นหรือแย่ลง ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับขั้นตอนการหลอมรวม การทดสอบที่ครูมอบให้เธอคือการฝึกพลังกำเนิดชีวิต ให้ได้ภายใน49วันเพื่อวางรากฐาน แต่เวลานี้มันสั้นเกินไปสำหรับการหลอมรวม แต่ถ้าหากระยะเวลานี้ สามารถฝึกพลังกำเนินชีวิตได้อย่างอิสระก็ถือว่าประสบผลสำเร็จ . ตามคำกล่าวที่ว่า "ลูกวัวแรกเกิด ไม่เกรงกลัวเสือ" เธอก็ได้ลงมือทำตามที่เธอคิดทันที . เธอฉวยโอกาสในช่วงที่อาไตกำลังช่วยเหลือเธอในการชี้นำพลัง เธอรีบนำพลังกำเนิดชีวิต ไปที่จุดตันเถียนส่วนกลางบริเวณใต้หัวใจทันที . อันที่จริง เธอไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าจุดตันเถียนส่วนกลางนั้นควรฝึกฝนอย่างไร เธอรู้เพียงตำแหน่งของจุดตันเถียนเท่านั้น . แต่ในเวลานี้ ผลของพลังกำเนิดชีวิตที่ไม่สิ้นสุด เริ่มส่งผลออกมาให้เห็นชัดเจนขึ้น . พลังของวิชากำเนิดชีวิตค่อนข้างจะนุ่มนวลและสมดุล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการกระตุ้นพละกำลัง จะเห็นผลได้ชัดเจนมาก . ในไม่ช้า ไต้อิ๋งก็รู้สึกอบอุ่นอยู่ในอกของเธอ เธอพยายามใช้พลังจิตของเธอชี้นำพลังกำเนิดชีวิตที่แขนและขาของเธอ เข้ามาไว้ที่จุดตันเถียนส่วนกลาง . ขณะนี้อาไตรู้สึกว่าเธอไม่มีความเสี่ยงต่อธาตุไฟเข้าแทรกแล้ว เขาจึงคลายการชี้นำพลังลง . ทันทีที่การชี้นำของอาไตหยุดลง พลังทั้งสองชนิดในร่างไต้อิ๋งก็เคลื่อนที่ไปในที่ทางของมันตามสัญชาตญาณอีกครั้ง พลังวิชาเสวียนเทียนทำงานโดยธรรมชาติของมัน และพลังกำเนิดชีวิตก็ทำงานภายใต้เจตนาของเธอ . พลังวิญญาณเริ่มทะลักออกมา แม้ว่าหน้าอกเธอจะยังอบอุ่นอยู่ แต่พละกำลังของพลังความลับของชีวิตในส่วนอื่นได้เข้าพัวกันกับพลังเสวียนเทียนอีกครั้ง . ในช่วงเวลาสั้นๆ พลังชีวิตสองเปอร์เซ็นต์ ถูกเธอควบคุมและชี้นำไปที่หน้าอกของเธอ . แทนที่เธอจะฝืนหลอมรวมพลังทั้งสองเข้าด้วยกันเหมือนก่อนหน้านี้ คราวนี้ไต้อิงได้แต่เพ่งจิตสำนึกของเธอ ไปที่พละกำลังเล็กน้อย ที่ควบแน่นอยู่ในจุดตันเถียนส่วนกลาง บริเวณหน้าอกของเธอ . เธอรวมรวมพลังเหล่านี้ไว้ที่ตันเถียนส่วนกลาง เพื่อไม่ให้พลังถูกส่งไปยังเส่นลมปราณส่วนอื่นในร่างกาย และเพื่อให้พลังเหล่านี้หมุนเวียนไปด้วย . พ่อของเธอเคยบอกเธอว่า เมื่อฝึกฝนจนก่อเกิดวังวนพลังวิญญาณในร่างกายขึ้นมา และหากในร่างกายมีวังวนพลังวิญญาณมากกว่าหนึ่ง พลังทั้งสองจะต้องหมุนในทางตรงข้ามกัน ด้วยวิธีนี้เท่านั้นที่จะสามารถเติมเต็มซึ่งกันและกันได้ ดังนั้นในเวลานี้เธอจึงควบคุมพลังหนึ่งโดยหมุนไปในทิศทางทวนเข็มนาฬิกา . ปัจจุบันพลังจิตของเธอไม่แข็งแกร่งมากนัก และเธอยังได้รับผลกระทบจากการที่พลังทั้งสองในร่างกายที่ทับซ้อนกัน อย่างไรก็ตามพลังความลับของชีวิตที่รวบรวมได้นั้นยังน้อยเกินไป มันจึงไม่ง่ายที่จะควบคุมพลังกลุ่มเล็กๆนี้ ให้หมุนไปตามความนึกคิดของเธอได้อย่างรวดเร็ว . สิ่งที่น่าทึ่งก็คือ เมื่อเธอผ่อนคลายการควบคุม พลังเล็กน้อยเหล่านี้ก็ไม่ได้กระจัดกระจายไป เพียงแต่ความเร็วในการหมุนช้าลงเพียงเท่านั้น เธอรู้ว่าถ้าหากความเร็วในการหมุนของพลังชีวิตเหล่านี้ช้าลงจนถึงระดับหนึ่ง พวกมันก็จะกระจายหายไป แต่คงเป็นการดีถ้าจะรักษาความเร็วขนาดนี้เอาไว้ให้ได้ชั่วคราว . ในเวลานี้ พลังงานทั้งสองในร่างกายเริ่มปะปนกันอีกครั้ง แม้จะไม่ได้แยกจากกัน แต่ก็ไม่ได้หลอมรวมเข้าด้วยกันและกลายเป็นความโกลาหล . ในครั้งนี้ไต้อิ๋งได้เปลี่ยนแนวทางปฏิบัติของเธอโดยสิ้นเชิง เธอแค่ดึงเอาพลัง จากพลังทั้งสองมาผสมกันอย่างระมัดระวัง แล้วผสานเข้าไปในวังวนพลังชีวิตในจุดตันเถียนส่วนกลาง บริเวณอกของเธอ . ในขณะที่ผสมผสานพละกำลัง เธอขับเคลื่อนพลังให้เร็วขึ้นและหมุนเวียนอีกครั้งเพื่อรักษาสมดุล . ด้วยความสามารถในปัจจุบันของเธอ เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะแยกพลังทั้งสองออกโดยตรง แต่การดึงพลังชีวิตเพียงเล็กน้อยก็ไม่ยากเกินไป เธอไม่ได้ตั้งใจชี้นำพลังทั้งสองมารวมกัน และพลังงานทั้งสองนี้ค่อนข้างนุ่มนวลโดยธรรมชาติ จึงไม่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงมากนัก . ทันใดนั้น กระบวนการฝึกฝนก็ค่อยๆเสถียรขึ้น แม้ว่าความเร็วจะไม่เร็วมาก แต่ไต้อิ๋งก็รู้สึกเล็กน้อยว่าเธอดูเหมือนจะได้พบหนทางแล้ว . เวลาค่อยๆผ่านไป ไต้อิ๋งก็ไม่ได้พบเหตุการณ์ธาตุไฟเข้าแทรกอีกเลย และเมื่อเวลาผ่านไปเจ็ดวัน อาไตก็รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของเธอ ลมหายใจของเธอมีความเสถียรอย่างสมบูรณ์ เมื่อเทียบกับตอนที่เธอเริ่มฝึกวิชากำเนิดชีวิตครั้งแรก ลมหายใจที่คงที่ทำให้ผู้คนรู้สึกสบายเป็นพิเศษ เห็นได้ชัดว่าลมหายใจแห่งชีวิตนั้นสมบูรณ์ยิ่งขึ้น และแม้แต่ผิวพรรณก็สดใสขึ้นด้วย . อาไตรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในร่างกายของเธอ และเขาก็รู้สึกแปลกใจ . เขาพบว่าพลังของไต้อิงมากกว่าครึ่งได้สะสมอยู่ในบริเวณจุดตันเถียนส่วนกลาง ใต้หน้าอกของเธอแล้ว และเธอก็ไม่ได้พยายามรวมพลังเสวียนเทียนไว้ที่จุดตันเถียนส่วนล่างบริเวณท้องน้อย แต่กลับสร้างเส้นทางใหม่ให้หมุนไปในทิศทางที่ตรงข้ามกัน . ตอนนี้วังวนพลังชีวิตสามารถหมุนได้เอง และดูดซับพลังงานชีวิตภายในจากร่างกาย และภายนอกจากทะเลสาบเทพสมุทร และดึงเข้าสู้วังวนของพลัง . วังวนที่เกิดจากพลังงานทั้งสองหมุนแยกจากกันอย่างชัดเจน และเป็นที่แน่นอนว่า60%ของเส้นลมปราณ มีพลังซ้อนทับกัน แต่เนื่องจากจุดหมายสุดท้ายต่างกัน มันจึงรู้สึกว่าไม่รบกวนซึ่งกันและกัน . แม้ว่านี่จะไม่ใช่การผสานกันของพลังทั้งสองอย่างแท้จริง แต่ความสามารถไต้อิ๋ง ที่สามารถทำแบบนี้ได้ตั้งแต่อายุยังน้อย ยังคงสร้างความตกตะลึงให้กับอาไต ในแผนเดิมที่เขาตั้งใจไว้ เพียงแค่เด็กคนนี้สามารถอดทนด้วยความมุ่งมั่น ตราบใดที่พลังใจของเธอยังคงเต็มเปี่ยมไปจนครบกำหนด เธอจะได้คำแนะนำในการปฏิบัติในอนาคตอย่างแน่นอน . นี่เป็นสิ่งที่เกินความคาดหมาย ไต้อิ๋งนั้นฉลาดมากจนเธอค้นพบวิธีดังกล่าว และเป็นวิธีที่แตกต่างจากแผนเดิมของอาไต แต่ดูเหมือนว่ามันจะมีโอกาสเป็นไปได้สูง . เธอคู่ควรแก่การเป็นธิดาของราชันเทพจริงๆ! . อาไตไม่ได้กลับห้องไปพักผ่อน แต่เขานั่งเงียบๆข้างทะเลสาบ คอยสังเกตุสถานการณ์ของไต้อิ๋ง . แม้ไต้อิ๋งจะพบเส้นทางที่ถูกต้อง แต่มันก็ไม่ง่ายเลยที่ทำสำเร็จ ส่วนที่ยากที่สุดคือ เมื่อพลังงานทั้งสองถึงจุดสมดุล ทำอย่างไรจึงจะบรรลุการผสานที่แท้จริงและการเปลี่ยนแปลงซึ่งกันและกัน ด้วยวิธีนี้พลังงานทั้งสองจะถูกรวมเป็นหนึ่งเดียว ทำให้เกิดตันเถียนคู่ในความหมายที่แท้จริง . ด้วยฐานการฝึกฝนในปัจจุบันของเธอ มันเป็นไปไม่ได้ที่ความแข็งแกร่งทางจิตใจของเธอจะไปถึงระดับนั้น ในเวลานี้เธอต้องได้รับคำแนะนำจากใครสักคน ----------------------------------------------------------------------------------------- |
0 comments:
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น