Douluo Dalu 4.5 : ตอนที่56 คุณจะเป็นที่หนึ่ง

ตอนที่56 คุณจะเป็นที่หนึ่ง

เมื่อลูกศรถูกยิงออกไป แม้ดูเหมือนว่าได้ใช้พลังของเขาไปจนหมด แต่ตอนนี้เขาก็รู้สึกมีความสุขจริงๆ
.
ความสุขที่ได้ปลดปล่อยพลังทั้งหมดที่ยากจะต้านทาน ราวกับว่าอัญมณีของเขา เข้าใกล้กับการเปลี่ยนแปลงไปสู่ขึ้นต่อไปมากขึ้นเรื่อยๆ
.
ในเวลานี้รัศมีแสงดาวตกใส่เขาอีกครั้ง พลังงานกระจายไปทั่วร่างเขาอย่างรวดเร็วพร้อมกับพลังแห่งการรักษา ร่างที่ไร้พลังของเขาค่อยๆได้รับการฟื้นฟู
.
เมื่ออีเฉินและไต้อิ๋งมองไปที่ดวงตาของเมิ่งปิ้นไป๋พวกเขาก็อดที่จะตกใจไม่ได้
.
แรงสั่นสะเทือนของภูเขาถล่มเมื่อสักครู่นั้นรุนแรงเกินไป ทุกคนอายุเท่ากันแต่ความแข็งแกร่งของเขาช่างน่ากลัวเหลือเกิน! ไม่ต้องสงสัยเลยว่าลูกศรของเมิ่งปิ้นไป๋ ได้เปลี่ยนมุมมองของเพื่อนๆที่มีต่อเขาอย่างสิ้นเชิง
.
แม้ว่าพวกเขาจะเป็นเพื่อนกัน พวกเขาก็ไม่สามารถหยุดลูกศรดอกนั้นได้แน่นอน
.
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเมิ่งปิ้นไป๋ได้ใช้ความสามารถทั้งหมดของเขาในการโจมตีครั้งนี้ เขาเป็นคนที่มีพลังโจมตีแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาสี่คนนี้อย่างแน่นอน แต่ในแง่อื่นเขาอ่อนแอกว่า อย่างไรก็ตามเมื่อความสามารถอันทรงพลังของเขาถึงระดับหนึ่งแล้ว มันก็เพียงพอที่จะปกปิดข้อบกพร่องทั้งหมดของเขา!
.
รัศมีของแสงส่องประกายบนร่างกายของเมิ่งปิ้นไป๋ และในเวลาเดียวกันหลิงอวี่โม่ก็ถูกปกคลุมไปด้วยแสง
.
นั่นคือค่ายกลวิญญาณแสงศักดิ์สิทธิ์
.
หลิงอวี่โม่กลับมายืนที่ด้านข้างของเมิ่งปิ้นไป๋และเหลือบมองไปยังอีเฉินกับไต้อิ๋งด้วยความกังวลเล็กน้อย หลังจากลูกศรได้ทำลายภูเขา ก็มีนักเรียนชั้นปีที่หนึ่งเหลือรอดน้อยกว่าห้าสิบคน และมีเพียงสิบคนเท่านั้นที่ไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย
.
บุคคลเหล่านี้มีไม่เพียงพอที่จะทำให้เกิดอันตรายใดๆต่อ "ไข่อีสเตอร์" ที่มีชื่อแดงทั้งสี่คนอีกต่อไป การตัดสินครั้งสุดท้ายคือการต่อสู้ของพวกเขาทั้งสี่คนอย่างไม่ต้องสงสัย
.
ไต้อิ๋งกล่าวว่า : "เราจะไม่ฉวยโอกาสในตอนนี้ ให้โอกาสคุณรักษาเขาก่อน เดี๋ยวฉันจะไปฆ่านักเรียนที่เหลือกับอีเฉิน รอจนกว่าเราจะฆ่านักเรียนทั้งหมดก่อนแล้วเราค่อยมาตัดสินกัน"
.
"ดี!" เมิ่งปิ้นไป๋พูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง
.
อีเฉินและไต้อิงชำเรืองมองหน้ากันและกัน เขายิ้มเล็กน้อยก่อนจะกล่าวว่า : "ถึงแม้เราจะเป็นเพื่อนร่วมทีมกันเป็นเวลาไม่นานนัก แต่ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีมากจริงๆ ในอนาคตเราจะเป็นพันธมิตรที่ดีอย่างแน่นอน"
.
หลังจากพูดจบทั้งสองคนก็หันกลับมาพร้อมกันและรีบวิ่งไปจุดที่ภูเขาถล่มลงมาอย่างรวดเร็ว
.
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเมิ่งปิ้นไป๋ใช้ลูกศรนี้เพื่อวางรากฐานสำหรับ "ไข่อีสเตอร์"ชื่อสีแดงทั้งสี่เพื่อไปถึงเป้าหมายที่วางไว้ และยังทำให้ตัวเขาเองเป็นดาวที่เจิดจรัสที่สุดในการสอบครั้งนี้ ส่วนอีเฉินและไต้อิ๋งยังคงต้องพิสูจน์ตัวเอง แน่นอนว่าพวกเขายังไม่ฆ่าเมิ่งปิ้นไป๋ในเวลานี้ เพราะเมิ่งปิ้นไป๋ไม่ลังเลที่จะยิงธนูดอกนั้นออกไป โดยที่เขาไม่ได้คำนึงถึงว่าตัวเองจะตกอยู่ในอันตรายหรือไม่ นี่คือความไว้ใจที่เมิ่งปิ้นไป๋มีให้กับพวกเขา สำหรับความไว้ใจนี้พวกเขาย่อมคืนกลับให้เมิ่งปิ้นไป๋เป็นธรรมดา เขาจึงให้เวลาเมิ่งปิ้นไป๋ในการฟื้นฟูและไปตามล่านักเรียนคนอื่นๆที่เหลือก่อน ท้ายที่สุดแล้วพวกเขาจะตัดสินกันอย่างตรงไปตรงมาอีกครั้ง ทั้งสี่ไม่ใช่ศัตรูที่แท้จริง แต่เป็นคนที่อาจกลายเป็นเพื่อนร่วมทีมในอนาคต ดังนั้นจึงควรช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
.
...ณ ห้องสังเกตการณ์
.
“ปาฏิหาริย์ นี่มันปาฏิหาริย์จริงๆ!” โจวเหว่ยชิงอดที่จะกล่าวชื่นชมไม่ได้ ไม่มีอะไรจะบดบังความภาคภูมิใจของเขาได้ในเวลานี้ จากลูกศรของเมิ่งปิ้นไป๋ ทำให้การตัดสินใจที่ยังคลุมเครืออยู่ในใจของเขา มีข้อสรุปในทันที
.
ในบรรดาราชันเทพทั้งหมด ความแข็งแกร่งของเขาอยู่ในอันดับสุดท้าย จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขาสามารถแก้ไขวิธีการฝึกฝนของเขา ให้เหมือนเมิ่งปิ้นไป๋ในตอนนี้ เป็นความจริงที่ว่าวิธีการนี้จะทำให้เขาสูญเสียความสามารถทั้งหมดของเขา และเขาไม่สามารถปกป้องตัวเองได้ อย่างไรก็ตามหากพลังโจมตีของเขาถึงขีดจำกัด เขาจะกลายเป็นอาวุธลับที่แข็งแกร่งที่สุด อาวุธลับที่สามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์การต่อสู้ได้เหมือนกับที่เมิ่งปิ้นไป๋เพิ่งแสดงให้เห็น
.
ทรงพลังมาก ทรงพลังจริงๆ!
.
ครูในชั้นปีที่หนึ่งต่างก็อยู่ในความตกตะลึง ไม่มีใครพูดถึงความไม่เป็นธรรม พวกเขาเฝ้าดู"ไข่อีสเตอร์" ชื่อสีแดงทั้งสี่คนมาทีละขั้นตอน และพวกเขาเห็นกระบวนการทั้งหมด
.
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า คนสี่คนนี้มีความแข็งแกร่งเหนือนักเรียนปีหนึ่งทั่วไป แต่เป็นการยากที่จะบอกว่าพวกเขาอยู่ในระดับไหน เพราะความสามารถของพวกเขาพิเศษเกินไป และต่างจากวิญญาณยุทธ์โดยสิ้นเชิง พวกเขาร่วมมือกันและใช้ความสามารถเด่นของตัวเอง จนท้ายที่สุดก็สร้างปาฏิหาริย์ทำเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ให้เป็นไปได้
.
เด็กสี่คนนี้น่าทึ่งมาก นอกจากนี้ยังสะท้อนถึงความสามารถในการสอนที่เหนือชั้นของคณบดีทั้งสี่ที่รับลูกศิษย์เพียงคนเดียว
.
การสอบครั้งนี้สำหรับคณะครูในชั้นปีที่หนึ่ง สิ้นสุดลงแล้ว
.
ความจริงก็คือความจริง ทั้งอีเฉินและไต้อิ๋งมีความสามารถในการโบยบิน ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ใต้หินที่ถล่มหรือยอดเขา นักเรียนชั้นปีหนึ่งก็ไม่สามารถต้านทานพวกเขาได้อีกต่อไป จุดแสงสีขาวปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมๆกับ คะแนนของอีเฉินและไต้อิ๋งก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
.
พื้นที่สอบยังคงหดตัวเรื่อยๆจนสุดขอบของหุบเขา การหดตัวครั้งต่อไปคือการหดตัวเข้าหาด้านในของหุบเขาลึก และในขณะนี้เหลือนักเรียนแค่สี่คน นั่นคือ"ไข่อีสเตอร์" ชื่อสีแดงทั้งสี่คน
.
ผู้ประเมินการสอบครั้งนี้ไม่ได้มีเพียงครูชั้นปีที่หนึ่ง แต่ยังมีรุ่นพี่ของเชร็คทั้งหมดด้วย ในขณะนี้เหล่ารุ่นพี่ต่างมีความคิดเห็นในทิศทางเดียวกันคือเชร็คภารกิจสวรรค์สมควรได้รับการยอมรับ
.
สี่คน แค่สี่คนแต่สามารถเอาชนะนักเรียนทุกคนในชั้นปีที่หนึ่งทั้งหมดได้ แม้ว่าจะมีองค์ประกอบของความบังเอิญ แต่ก็มีเหตุผลสำหรับลักษณะเฉพาะของระบบการแข่งขัน อย่างไรก็ตามความสำเร็จคือความสำเร็จ
.
ท้ายที่สุดแล้วอีเฉินและไต้อิ๋งไม่ได้กระตือรือร้นที่จะกลับมาเพื่อมองหาเมิ่งปิ้นไป๋และหลิงอวี่โม่
.
พวกเขาหยุดอยู่ที่อีกฟากหนึ่งของหุบเขา และฟื้นพลังของตัวเองอย่างเงียบๆ ในขณะเดียวกันพวกเขาก็ให้เวลาเมิ่งปิ้นไป๋ฟื้นตัวมากขึ้น การดวลกันครั้งสุดท้ายคือการเผชิญหน้าแบบคู่อย่างไม่ต้องสงสัย หลังจากได้ผลแพ้ชนะแล้วก็จะเป็นการตัดสินตัวต่อตัวในท้ายที่สุด
.
ในอีกด้านหนึ่งเมิ่งปิ้นไป๋และหลิงอวี่โม่นั่งอยู่ด้วยกัน ภายใต้การรักษาของหลิงอวี่โม่อาการบาดเจ็บของเมิ่งปิ้นไป๋ได้หายเป็นปกติแล้วและความแข็งแกร่งของเขาก็ฟื้นฟูขึ้นอย่างรวดเร็ว
.
"ทำไมฉันถึงคิดว่าธาตุแสงของคุณแข็งแกร่งกว่าเมื่อก่อน" เมิ่งปิ้นไป๋ถามหลิงอวี่โม่อย่างสงสัย
.
หลิงอวี่โม่ยิ้มและกล่าวว่า "ห่วงโซ่ดาราดึงพลังของเขาทั้งคู่มาเล็กน้อย เดี๋ยวฉันจะส่งต่อให้คุณ"
.
เมิ่งปิ้นไป๋ยิ้มและพูดว่า : "คุณนี่เจ้าเล่ห์จริงๆ"
.
หลิงอวี่โม่กระพริบตา : "ซะที่ไหน ฉันอ่อนแอและทำอะไรไม่ถูก ถ้าไม่มีคุณฉันคงโดนกำจัดไปนานแล้ว"
.
เมิ่งปิ้นไป๋ส่ายหัวและพูดว่า : "ไม่ ถ้าไม่มีคุณ ฉันก็อยู่ไม่ถึงตอนนี้ ฉันรู้ปัญหาของตัวเอง ในแง่ของพลังโจมตีฉันอาจจะแข็งแกร่ง แต่พลังป้องกันฉันไม่เก่งและความเร็วก็อยู่ในระดับปานกลาง หากปราศจากการป้องกัน การรักษาและการเสริมพลังของคุณ ฉันก็ไม่สามารถบรรลุผลดังกล่าวได้ และเป็นไปไม่ได้เลยที่จะยิงธนูสามสายได้ อันที่จริงแล้วคุณมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าฉัน ในตอนแรกฉันอาจจะดูถูกคุณเล็กน้อย แต่ต่อมาฉันก็พบว่าคุณระวังตัวและพร้อมจะหนีเสมอ ฉันพูดถูกไหม?"
.
หลิงอวี่โม่ไอและพูดว่า : "ไม่ผิด ครูสอนฉันว่า ปลอดภัยไว้ก่อน"
.
เมิ่งปิ้นไป๋หัวเราะและพูดว่า : "ฉันคิดว่าท้ายที่สุดแล้วแชมป์จะเป็นของคุณ เชื่อหรือไม่?"
.
หลิงอวี่โม่ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง
.
เมิ่งปิ้นไป๋กล่าวว่า : "บอกตามตรง ฉันสามารถปลดปล่อยการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดได้ด้วยตัวเอง แต่หลังจากปล่อยมันออกมาแล้ว ฉันจะไม่สามารถทำอะไรได้อีกต่อไป" ดังนั้น หลังจากที่ฉันยิงลูกศรออกไป ให้คุณใช้มีดสังหารฉันให้เร็วที่สุด ด้วยวิธีนี้คุณจะได้รับคะแนนครึ่งหนึ่ง
.
ถ้าคุณไม่ฆ่าฉัน คะแนนครึ่งหนึ่งของฉันอาจจะเป็นของพวกเขาสองคน จะเกิดอะไรขึ้นในขณะนั้นก็คาดเดาไม่ได้ หนึ่งในคุณทั้งสามจะเป็นที่หนึ่ง และฉันอยากให้เป็นคุณเพราะคุณคือเพื่อนร่วมทีมของฉัน!"
.
หลิงอวี่โม่มองไปที่เมิ่งปิ้นไป๋ด้วยรอยยิ้มและส่ายหัวก่อนจะกล่าวว่า : "ไม่ คุณจะเป็นที่หนึ่ง ฉันคิดว่าอย่างนั้น"
.
เมิ่งปิ้นไป๋หัวเราะและกล่าวว่า : "ทำไม?"
.
หลิงอวี่โม่พูดด้วยท่าทีจริงจัง : "ไม่มีเหตุผล ทั้งสองคนนั้นไม่ง่ายที่จะรับมือ ระวังตัวด้วยนะ"

-----------------------------------------------------------------------------------------




Share:

0 comments:

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็น

👨‍🏫นักแต่งนิยายจีน

A B C D E F G H I
J K L M N O P Q R
S T U V W X Y Z

คลังบทความของบล็อก

บทความล่าสุด

หน่วยเทพล่าอสูร : 💠ผนึกต้องห้าม